ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สอบแล้ว “รพ.สยามราษฎร์” หลังมีชื่อสั่งซื้อซูโดฯ สูตรเดี่ยว-สูตรผสมรวมกันกว่า 4 แสนเม็ด พบโดนอดีต จนท.จัดซื้อแอบอ้างชื่อสั่งยา สุดแสบปลอมแบบฟอร์ม-ลายเซ็น แถมทำเอกสารแจ้งสาธารณสุขจังหวัดเสร็จสรรพ โฆษกคณะทำงานฯ แจงพบที่จอมทองด้วย 2 คลินิกสั่งซูโดฯ ที่ละ 3 แสน ด้านดีเอสไอยันต้องตามต่อยาที่สั่งหายไปไหน-ใครมีเอี่ยว
วันนี้ (5 เม.ย.) เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการอาหารและยา และคณะทำงานป้องกันและปราบปราม ฟื้นฟู เยียวยาสารตั้งต้นยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข นำโดยว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยเลขานุการและโฆษกประจำคณะ เดินทางมายังโรงพยาบาลสยามราษฎร์ เชียงใหม่ ถ.เชียงใหม่-ลำปาง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบกรณีการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวจำนวนถึง 210,000 เม็ดของทางโรงพยาบาล
การเข้าตรวจสอบในวันนี้ คณะทำงานส่วนหนึ่งได้เข้าประชุมหารือกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของโรงพยาบาล เนื่องจากทางโรงพยาบาลปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการสั่งซื้อยาจำนวนมากดังกล่าว ขณะที่คณะทำงานอีกส่วนหนึ่งได้ทำการตรวจสอบการรับและจ่ายยาของห้องยา รวมทั้งตรวจสอบสต๊อกยาของโรงพยาบาลอีกด้วย
ภายหลังการประชุม คณะทำงานชุดดังกล่าวได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตเปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบของคณะทำงานในวันนี้ สืบเนื่องจากได้พบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวของทางโรงพยาบาลสยามราษฎร์ เชียงใหม่ ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 210,000 เม็ด
ผลการตรวจสอบพบว่า แม้โรงพยาบาลมีใบอนุญาตและสามารถสั่งซื้อหรือแจกจ่ายยาดังกล่าวได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ปรากฏว่ายาจำนวนดังกล่าวที่ถูกสั่งซื้อและมีตัวเลขจากโรงงานผู้ผลิตไปยัง อย.นั้น กลับไม่ได้เข้าสู่ระบบของโรงพยาบาลแต่อย่างใด
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตกล่าวต่อไปว่า โรงพยาบาลได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวเลย และจากการตรวจสอบพบว่าการสั่งซื้อยาดังกล่าวเกิดขึ้นจากการปลอมแปลงเอกสาร โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อคนหนึ่งได้แอบอ้างชื่อของโรงพยาบาลในการสั่งซื้อ
ทั้งนี้ นายแพทย์สินธิป พัฒนคูหา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้ชี้แจงคณะทำงานแล้วว่าไม่ทราบเรื่องและไม่ได้ลงนามในเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด รวมทั้งยังได้มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ทำเอกสารดังกล่าว โดยย้ายให้ไปรับผิดชอบในตำแหน่งอื่น และแจ้งความในข้อหาปลอมแปลงเอกสารแล้ว
ขณะที่ปริมาณการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมของโรงพยาบาลสยามราษฎร์ เชียงใหม่นั้น ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตระบุว่าพบความผิดปกติด้วยเช่นกัน โดยจากการตรวจสอบพบว่าโรงพยาบาลมียอดการสั่งซื้อยาประเภทดังกล่าวในปี 2554 จำนวน 226,250 เม็ด แต่ทางโรงพยาบาลระบุว่าได้สั่งซื้อยาเข้าสู่ระบบของโรงพยาบาลเพียง 20,000 เม็ดเท่านั้น ทำให้มียาที่หายไปจำนวนถึง 206,250 เม็ด
จากการตรวจสอบจึงพบว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารทั้งในส่วนของใบสั่งซื้อและรายงานการครอบครองซูโดอีเฟดรีนที่ส่งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ทางโรงพยาบาลไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแล้วเช่นกัน
ผู้ช่วยเลขานุการและโฆษกประจำคณะทำงานฯ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้คณะทำงานอีกส่วนหนึ่งได้เดินทางไปยัง อ.จอมทองเพื่อตรวจสอบคลินิก 2 แห่ง ได้แก่ โอภาสคลินิกและสัมพันธ์คลินิก หลังจากตรวจสอบพบว่าคลินิกทั้ง 2 แห่งมีการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมสูงถึงแห่งละ 300,000 เม็ด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงผิดปกติ โดยจะสอบสวนว่ามีการสั่งซื้อยาจำนวนมากเช่นนี้มาได้อย่างไร และยาดังกล่าวถูกนำไปใช้อย่างไรบ้าง ก่อนที่จะรวบรวมข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเพื่อนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ส่วน การดำเนินการในขั้นตอนต่อจากนี้ นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รักษาการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ทำการสืบสวนต่อไปว่านอกเหนือจากพนักงานที่เป็นผู้กระทำผิดในกรณีดังกล่าวแล้ว ยังมีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่ รวมทั้งจะติดตามว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไรบ้างกับเหตุการณ์ที่มียาหายไปจากโรงพยาบาลในหลายพื้นที่ จากการตรวจสอบในขณะนี้พบว่ามีแนวโน้มที่จะมีความเชื่อมโยงกัน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนซึ่งไม่สามารถลงรายละเอียดได้ เนื่องจากอาจส่งผลต่อรูปคดี