xs
xsm
sm
md
lg

โอละพ่อ! จากเท้าเสือโคร่งลายพาดกลอน พบกลายเป็นรอยเท้า “อีเห็นไฟ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - โอละพ่อ จากเท้าและมูลเสือโคร่งลายพาดกลอน ที่ชาวบ้านพบจนผวาที่อำเภอไทรโยค จนท.อช.รุดตรวจสอบ พบกลายเป็นรอยเท้าและมูลอีเห็นลายพาด หรือ “อีเห็นไฟ”

จากกรณีที่ชาวบ้านในเขตพื้นที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้ร่ำลือว่า มีผู้พบเห็นเสือโคร่งลายพาดกลอน ออกมาเดินเพ่นพ่านอยู่บนภูเขาและบริเวณโดยรอบ จนวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น หลังจากมีข่าวลือเกิดขึ้นเป็นเหตุทำให้ชาวบ้านต่างผวา ไม่กล้าออกจากบ้านในช่วงเวลากลางคืน แม้กระทั่งแม่ชีที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมสันติกาญจน์ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบเพียงรอยเท้าของสัตว์ และมูลของสัตว์ โดยนายวิเชียร แป้นกลม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 หมู่ 9 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นผู้พบเห็นได้ยืนยันว่าพบเสือจริง และได้เล่าเรื่องดังกล่าวต่อๆ กันไปจนกระทั่งเป็นข่าวดังกล่าว

ล่าสุด วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ นายเอิบ เชิงสะอาด ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้สั่งการให้ นายประดุง จิตระออน หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เดินทางไปยังจุดที่ชาวบ้าน อ้างว่า พบเสือโคร่งลายพาดกลอน เพื่อตรวจสอบรอยเท้า และมูลสัตว์ดังกล่าว ครั้งนี้มีแม่ชี 2 องค์ที่ปฏิบัติอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมสันติกาญจน์ เป็นผู้นำทาง

เมื่อไปถึง นายประดุง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกออกค้นหาเสือโคร่งลายพาดกลอนในพื้นที่ป่าเบญจพรรณที่อยู่รอบภูเขา รวมทั้งออกค้นหาบนยอดภูเขาที่มีความสูงประมาณ 30-40 เมตร ส่วนชุดที่สอง ออกค้นหารอยเท้าและมูลเสือโคร่ง ครั้งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมงแต่ก็ไม่พบ

แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบเพียงรอยเท้าของสัตว์และมูลสัตว์กระจายอยู่ทั่วบริเวณ นอกจากนั้น ยังพบร่องรอยเท้าและมูลสัตว์อยู่บริเวณไร่อ้อยที่มีคนงานเป็นจำนวนมากกำลังช่วยกันตัดอ้อยอยู่ จากการสอบถามไม่มีผู้ใดเคยเห็นเสือตัวดังกล่าวแต่อย่างใด

นายประดุง จิตระออน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของเราได้ช่วยกันออกค้นหาตามสถานที่ต่างๆ ภายในป่าและบนยอดเขานานกว่าสองชั่วโมงแต่ก็ไม่พบเสือโคร่ง และจากการพิสูจน์รอยเท้าที่พบ รวมทั้งมูลสัตว์ที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ พบว่ารอยเท้าดังกล่าวเป็นรอยเท้าของสัตว์ป่าจริง แต่ไม่ใช่รอยเท้าเสืออย่างแน่นอน โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของเราคาดว่ารอยเท้าและมูลสัตว์ที่พบเป็นของตัว “อีเห็นลายพาด หรือ อีเห็นไฟ” ที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ มีลักษณะลำคอค่อนข้างยาว ลำตัวตรงกลางจะมีลายพาดสีดำขวางลงประมาณ 7-8 ลาย ส่วนขนตามลำตัวจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน ส่วนหางจะเป็นสีดำและยาวโดยหัวจรดหางจะยาวประมาณ 1 เมตร

ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่า ชาวบ้านที่พบเห็นอาจจะไม่เคยเห็นตัวอีเห็นลายพาด หรือ อีเห็นไฟ มาก่อน จึงเข้าใจผิดคิดไปเองว่าเป็นเสือโคร่ง เนื่องจากหากมองเห็นในระยะไกล ลายตามลำตัวของมันจะคล้ายๆ ลายของเสือโคร่ง ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่เสือโคร่งลายพาดกลอนตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน ดังนั้น ประชาชนไม่ต้องตื่นกลัวแต่อย่างใด จากนี้ตนจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น