พระนครศรีอยุะยา - ชาวบ้านอำเภอนครหลวง จ.พระนครศรีอยุะยา โวยฝุ่นฟุ้งจากสาเหตุรถบรรทุกวิ่งทั้งวันทั้งคืน รวมตัวจุดไฟเผายางรถยนต์กลางถนนทางหลวงหมายเลข 2033 สายอยุธยา-ท่าเรือ ห้ามรถบรรทุกวิ่งผ่านเส้นทาง จนกว่าจะมีการซ่อมถนนใหม่ นายอำเภอนครหลวง ลงเจรจารับข้อเสนอแก้ปัญหาให้ จึงยอมสลายกลางดึก
เมื่อกลางดึกเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้าน หมู่ 4-6 ต.บางระกำ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 200 คน รวมตัวกันนำยางรถยนต์มาวางกลางถนนทางหลวงหมายเลข 2033 สายอยุธยา-ท่าเรือ แล้วจุดไฟเผาปิดถนน ไม่ให้รถบรรทุกวิ่งผ่านเส้นทางนี้ เนื่องจากชาวบ้านอ้างว่า รถที่วิ่งบนถนนสายนี้ทั้งวันทั้งคืนด้วยความเร็ว ทำให้ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยฝุ่นละออง ชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างลำบาก ค้าขาย หรือใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องสูดดมเอาฝุ่นละอองจากการที่รถบรรทุกวิ่งทั้งวันทั้งคืน จนเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
นายสมบูรณ์ ประวิง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.4 ต.บงระกำ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านที่อยู่ริมถนนกล่าวว่า เราอดทนกันมานานที่ต้องนั่งต้องนอนกินฝุ่นทุกวัน ตอนน้ำท่วมก็ลำบากมากพอแล้ว พอน้ำลดต้องมานั่งกินฝุ่นแทนข้าว รถบรรทุกที่วิ่งก็วิ่งด้วยความเร็วไม่เกรงใจชาวบ้าน 2 ข้างทาง ผู้ประกอบการไม่เคยมาสนใจไยดีชาวบ้าน เอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว ถนนหนทางก็ไม่ดี ร้องเรียนภาครัฐก็เงียบหาย ต้องทนอยู่กับความเดือดร้อนอย่างนี้มานานแล้ว ไม่เห็นมีหน่วยงานไหนมาสนใจ จนชาวบ้านทนไม่ไหวที่ต้องมานั่งตายผ่อนส่งอย่างนี้ เลยออกมาประท้วงปิดถนนไม่ให้รถบรรทุกวิ่ง
ต่อมา เวลา 22.00 น. นายพันธุ์เลิศ มีวุฒิสม นายอำเภอนครหลวง ได้เดินทางมาพบกับชาวบ้านที่ชุมนุม พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงพล พงษ์พิลา ผกก.สภ.นครหลวง เพื่อรับฟังปัญหาของชาวบานที่มาชุมนุมเรียกร้องในครั้งนี้ โดยได้กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งนายอำเภอที่นี่ได้แค่ 3 เดือน รู้ว่าปัญหาของคน อ.นครหลวง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางฝุ่นละอองของรถบรรทุก และโรงงานที่ประกอบกิจการถ่านหิน ดิน ทราย มาเป็นเวลานาน ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ก็ได้ข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่อาจจะล่าช้าไปไม่ทันใจชาวบ้านที่เดือดร้อน
สำหรับถนนเส้นนี้ที่มีปัญหา คือ ตั้งแต่น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปีที่แล้ว ทำให้ถนนหลายสายพังเสียหาย เมื่อมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งด้วยความเร็วก็เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจายมาก ตอนนี้ก็ได้ประสานกับผู้ประกอบการ และทางหลวงชนบทในการแก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อน โดยการนำน้ำมาราดเพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย และในระยะการแก้ไขปรับปรุงถนนเส้นนี้อยู่นั้นก็ให้รถบรรทุกหยุดวิ่งชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะมีการซ่อมแซมถนนเป็นที่เรียบร้อยเสียก่อน เมื่อถนนเสร็จก็จะมีป้ายแจ้งเตือนในการชะลอการวิ่งในที่ชุมชน หรือการทำคันกลางถนน ซึ่งจะเป็นขั้นตอนต่อไป และจะได้เรียกตัวแทนชาวบ้าน ทางหลวงชนบท แขวงการทาง ผู้ประกอบการโรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือในการแก้ไขปัญหากันต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านพอใจต่อการเข้าเจรจาของนายอำเภอในครั้งนี้ และได้แยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมา