เชียงราย - ขนจนเป็นเรื่อง ชาวบ้านชุมชนกลางเมืองเชียงรายสุดทนรถขนดินไม่ยอมใช้ผ้าใบคลุม ทำเศษดินตกเกลื่อน-ฝุ่นตลบกลางเมืองตั้งแต่เช้ายันค่ำ เจรจาแล้วยังไม่ยอมแก้ไข จนต้องรวมปิดถนนห้ามเข้า
วันนี้ (1 มี.ค.) นายเจริญรัตน์ อยู่อินทร์ ประธานชุมชนสันป่าก้อ หมู่ 4 ต.รอบเวียง อ.มือง จ.เชียงราย พร้อมชาวบ้านอีกประมาณ 50 คนมีทั้งคนที่ทำงานในตัวเมือง พนักงาน พ่อค้าแม่ค้า ฯลฯ ได้ชุมนุมกันบนถนนเกษตรสมบูรณ์ ซึ่งเป็นถนนทางเข้าชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงราย ก่อนพากันปิดถนนเพื่อป้องกันไม่ให้รถบรรทุกขนดินแล่นผ่านถนนสายดังกล่าว แต่ยังคงปล่อยให้รถชนิดอื่นๆ สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ รวมทั้งได้มีการนำป้ายสัญญาณไฟจราจรไปติดตรงถนนในชุมชนเป็นสัญลักษณ์ด้วย
นางมาริษา มณีจันทร์ อายุ 32 ปี แม่ค้าขายอาหารในตลาดของชุมชน กล่าวว่า เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนได้มีเอกชนรายหนึ่ง นำดินเข้าไปถมที่ดินที่อยู่ในชุมชนประมาณ 32 ไร่ เพื่อทำการก่อสร้างอาคาร ซึ่งชาวบ้านก็ถือว่าเป็นสิทธิตามปกติ แต่ปรากฏว่าได้มีการว่าจ้างเอกชนขนดินให้บรรทุกดินเข้าไปวันละหลายเที่ยวและหลายคัน โดยไม่ได้ใช้ผ้าใบคลุม ทำให้เศษดินตกเรี่ยราด รวมทั้งก่อให้เกิดฝุ่นละอองไปทั่วบริเวณ จนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะตนซึ่งขายอาหารพบว่าฝุ่นและดินฟุ้งกระจายใส่อาหาร จนขายหรือกินเองไม่ได้เลย ส่วนคนอื่นๆ บางคนเกิดความเครียดและเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ
ชาวบ้านระบุอีกว่า การขนดินทำกันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดจนถึงค่ำและไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายเรื่องการใช้ผ้าใบคลุมดินหลังรถบรรทุก ทำให้ต้องรวมตัวกันประชุมและให้ตัวแทนเข้าไปตกลงกับผู้รับเหมาก่อสร้าง เมื่อวันที่ 29 ก.พ.55 ที่ผ่านมา ได้ข้อยุติว่าจะไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอีก
แต่ปรากฏว่า หลังตกลงกันแล้วรถบรรทุกขนดินก็ยังคงทำแบบเดิม คือ ไม่มีผ้าใบคลุมและแล่นเข้าออกหมู่บ้านจนเศษดินตกเรี่ยราดและเกิดฝุ่นฟุ้งกระจายอีก จนต้องรวมตัวออกมาปิดถนน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองเชียงราย ได้ไปตรวจสอบและอำนวยความสะดวกให้กับรถยนต์ของชาวบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องให้วิ่งเข้า-ออกซอย กระทั่งมีตัวแทนผู้รับเหมาไปตกลงเจรจากับชาวบ้านจนได้ข้อยุติว่าจะไปใช้เส้นทางอื่นในการขนดินแทน ทำให้ชาวบ้านพอใจสลายการชุมนุม
ทั้งนี้ มีเอกชนรับเหมาขนดินหลายรายในจังหวัดได้รับจ้างขนดินแต่มีหลายครั้งที่ไม่มีผ้าใบคลุมให้ถูกต้องแต่หากไม่เดือดร้อนกับชาวบ้านมากนักก็มักจะปล่อยปละละเลยกันไปโดยหลายคนสงสัยถึงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างมาก