ลำปาง - นายกเทศมนตรีนำชาวบ้าน พา นอภ.เกาะคา-สื่อ ดูความเสียหายของฝายกั้นน้ำ-ถนนในพื้นที่ หลังได้รับผลกระทบจากน้ำป่าปี 54 โวยถูกจังหวัดโยกงบจนหลุดผังใช้งบโครงการตามแผนฟื้นฟู เยียวยา ตามนโยบายรัฐบาล “ปู”
บ่ายวันนี้ (22 ก.พ.) นายธรรมรักษ์ เชียงพรหม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น และตัวแทนชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้พา นายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ นายอำเภอเกาะคา และสื่อมวลชน ลงสำรวจความเสียหายของฝายทุ่งหัวขัว หรือฝายบ้านมะกอก-นาบัว ม.4 ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งไม่สามารถใช้กักเก็บน้ำได้ แม้ก่อนหน้านี้ จะมีการใช้งบประมาณท้องถิ่นเข้าทำการซ่อมแซมไปแล้ว 2 ครั้ง แต่สุดท้ายเมื่อปี 2554 น้ำได้ซัดจนพังทลายทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ ทางท้องถิ่นได้นำเสนอโครงการผ่านไปยังอำเภอและเสนอจังหวัดลำปาง เพื่อซ่อมแซมตลิ่งและทำผนังกั้นตลิ่ง โดยใช้กล่องแกลเบี้ยน ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 30 เมตร ลึก 3 เมตร เพื่อใช้กักเก็บน้ำให้เกษตรกรซึ่งปลูกข้าว รวม 3 ตำบล คือ ต.ไหล่หิน ต.เกาะคา และ ต.นาแก้ว รวม 667 ครัวเรือน เกือบ 3,000 คน ได้ใช้ในช่วงหน้าแล้งและเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำจำนวนมากได้
นอกจากนี้ พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากถนนพังทลายอีกแห่งหนึ่ง คือ บ้านแม่ฮวก ม.3 ต.ไหล่หิน ขณะนี้ชาวบ้านเกือบ 260 ครัวเรือน เกือบ 800 คน ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่นที่ไกลกว่าเดิม เนื่องจากถนนใช้งานไม่ได้ ทางท้องถิ่นได้ของบประมาณเพื่อซ่อมถนนและซ่อมแนวป้องกันตลิ่งโดยการตอกหลักไม้ และเสริมกระสอบทราย ระยะทางประมาณ 23 เมตร
แต่สุดท้ายทางจังหวัดโดยสำนักงานจังหวัด ได้โยกโครงการ ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วน และอยู่ในหลักการของแผนฟื้นฟู เยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ออกไปเป็นโครงการสุดท้ายแล้วนำโครงการที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน และสามารถนำไปอยู่ในแผนระยะยาวหรือแผนยุทธศาสตร์ของจังหวัดได้ มาลงแทน และเกินวงเงินที่ได้รับอนุมัติจาก ครม.คือ 100 ล้านบาท อีกด้วย
นายธรรมรักษ์ กล่าวว่า อยากให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาดูในเรื่องนี้หน่อย เพราะชาวตำบลไหล่หิน มีอาชีพหลัก คือ ทำนา เมื่อไม่มีน้ำก็ทำอะไรไม่ได้ ฝายที่ได้รับความเสียหายก็ยังซ่อมแซมไม่ได้ ทั้งๆ ที่รัฐบาลบอกว่า ต้องเร่งเยียวยา เพราะฤดูฝนก็ใกล้เข้ามาแล้ว หากไม่รีบดำเนินการ เมื่อน้ำมาก็ต้องได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก ชาวบ้านก็ต้องเดือดร้อนหน้าน้ำ น้ำท่วม หน้าแล้ง น้ำไม่มี อาชีพการเกษตรก็ทำไม่ได้ โครงการที่ขอเข้าไปก็ถูกโยกจนไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่
ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจทางจังหวัดเหมือนกัน ทั้งๆ ที่พื้นที่ของตนเองเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยจำนวนมาก แต่ก็ยังบอว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ และนำโครงการอื่นที่ไม่จำเป็นมาสวมแทน
ขณะที่ นายอำเภอเกาะคา กล่าวว่า ทางอำเภอเกาะคา ได้เสนอโครงการซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนเกี่ยวกับการฟื้นฟู เยียวยา พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งสิ้น รวม 40 โครงการ งบประมาณ 80 ล้านบาท แต่ถูกตังหวัดตัดเหลือเพียง 6 โครงการ งบประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถนำมาทำอะไรได้เลย
บ่ายวันนี้ (22 ก.พ.) นายธรรมรักษ์ เชียงพรหม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น และตัวแทนชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้พา นายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ นายอำเภอเกาะคา และสื่อมวลชน ลงสำรวจความเสียหายของฝายทุ่งหัวขัว หรือฝายบ้านมะกอก-นาบัว ม.4 ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งไม่สามารถใช้กักเก็บน้ำได้ แม้ก่อนหน้านี้ จะมีการใช้งบประมาณท้องถิ่นเข้าทำการซ่อมแซมไปแล้ว 2 ครั้ง แต่สุดท้ายเมื่อปี 2554 น้ำได้ซัดจนพังทลายทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ ทางท้องถิ่นได้นำเสนอโครงการผ่านไปยังอำเภอและเสนอจังหวัดลำปาง เพื่อซ่อมแซมตลิ่งและทำผนังกั้นตลิ่ง โดยใช้กล่องแกลเบี้ยน ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 30 เมตร ลึก 3 เมตร เพื่อใช้กักเก็บน้ำให้เกษตรกรซึ่งปลูกข้าว รวม 3 ตำบล คือ ต.ไหล่หิน ต.เกาะคา และ ต.นาแก้ว รวม 667 ครัวเรือน เกือบ 3,000 คน ได้ใช้ในช่วงหน้าแล้งและเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำจำนวนมากได้
นอกจากนี้ พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากถนนพังทลายอีกแห่งหนึ่ง คือ บ้านแม่ฮวก ม.3 ต.ไหล่หิน ขณะนี้ชาวบ้านเกือบ 260 ครัวเรือน เกือบ 800 คน ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่นที่ไกลกว่าเดิม เนื่องจากถนนใช้งานไม่ได้ ทางท้องถิ่นได้ของบประมาณเพื่อซ่อมถนนและซ่อมแนวป้องกันตลิ่งโดยการตอกหลักไม้ และเสริมกระสอบทราย ระยะทางประมาณ 23 เมตร
แต่สุดท้ายทางจังหวัดโดยสำนักงานจังหวัด ได้โยกโครงการ ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วน และอยู่ในหลักการของแผนฟื้นฟู เยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ออกไปเป็นโครงการสุดท้ายแล้วนำโครงการที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน และสามารถนำไปอยู่ในแผนระยะยาวหรือแผนยุทธศาสตร์ของจังหวัดได้ มาลงแทน และเกินวงเงินที่ได้รับอนุมัติจาก ครม.คือ 100 ล้านบาท อีกด้วย
นายธรรมรักษ์ กล่าวว่า อยากให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาดูในเรื่องนี้หน่อย เพราะชาวตำบลไหล่หิน มีอาชีพหลัก คือ ทำนา เมื่อไม่มีน้ำก็ทำอะไรไม่ได้ ฝายที่ได้รับความเสียหายก็ยังซ่อมแซมไม่ได้ ทั้งๆ ที่รัฐบาลบอกว่า ต้องเร่งเยียวยา เพราะฤดูฝนก็ใกล้เข้ามาแล้ว หากไม่รีบดำเนินการ เมื่อน้ำมาก็ต้องได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก ชาวบ้านก็ต้องเดือดร้อนหน้าน้ำ น้ำท่วม หน้าแล้ง น้ำไม่มี อาชีพการเกษตรก็ทำไม่ได้ โครงการที่ขอเข้าไปก็ถูกโยกจนไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่
ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจทางจังหวัดเหมือนกัน ทั้งๆ ที่พื้นที่ของตนเองเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยจำนวนมาก แต่ก็ยังบอว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ และนำโครงการอื่นที่ไม่จำเป็นมาสวมแทน
ขณะที่ นายอำเภอเกาะคา กล่าวว่า ทางอำเภอเกาะคา ได้เสนอโครงการซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนเกี่ยวกับการฟื้นฟู เยียวยา พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งสิ้น รวม 40 โครงการ งบประมาณ 80 ล้านบาท แต่ถูกตังหวัดตัดเหลือเพียง 6 โครงการ งบประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถนำมาทำอะไรได้เลย