พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา นำทีมตำรวจ อส.และเจ้าหน้าที่ราชทัณท์ สนธิกำลังบุกค้นสถานบำบัดพิเศษ อยุธยา ได้ของกลางโทรศัพท์ และ ซิม สายไฟต่อพ่วง เครื่องเล่นการพนันเพียบ
เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 20 มี.ค.55 ที่ผ่านมา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เพ็ชรกำเหนิด รองผบก. พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง ผกก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางทิฆัมพร วิเชียรเชื้อ ผอ.ทัณทสถาณบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา กำลังตำรวจพระนครศรีอยุธยา จำนวน 180 นาย ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมราชทัณท์จำนวน 60 นาย และกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจคันทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจค้นสิ่งของต้องห้ามและยาเสพติด ในโครงการปฏิบัติการรวมพลังแผ่นดินเพื่อเอาชนะยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล
จากการตรวจค้นในเรือนนอน ซึ่งมีผู้ต้องขังทั้งหมด 802 คน เป็นผู้ต้องโทษคดียาเสพติดทั้งหมด เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นผู้ต้องขังบางคนต่างโยนโทรศัพท์ทิ้งลงหน้าต่างบ้าง หักซิมโทรศ้พท์ทิ้งบ้าง ภายในห้องนอนพบมีการต่อสายไฟ เพื่อชาร์จโทรศัพท์เป็นแนวยาว นอกจากนี้ ยังต้นพบสมุดรายการโอนบัญชีเงินและอุปกรณ์การแล่นการพนันอีกด้วย
นายวิทยา กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ ได้ของกลางทั้งหมด เป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 25 เครื่อง ซิมการ์ด 25 ซิม อุปกรณ์ชาร์จ 9 ชุด สายไฟต่อพ่วง 2 ชุด หุฟัง 7 ชุด ไพ่ 1 สำรับ ลูกเต๋า 2 ลูก จึงยึดไว้และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องขังที่มีสิ่งขงต้องห้ามไว้ในความครอบครอง นอกจากนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสารเสพติดกับผู้ต้องขังทั้งหมด 802 คน ปรากฏว่า ผลการตรวจเบื้องต้นมีเพียง 1 คนที่มีสีม่วง
นายวิทยา กล่าวต่ออีกว่า ได้ให้คำแนะนำกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องขัง การเดินสายไฟ หรือการนำโทรทัศน์มาให้ผู้ต้องขังดูภายในห้องเรือนนอน ต้องออกแบบใหม่เป็นพิเศษ ไม่ให้มีสายไฟยื่นเข้ามาภายในห้องได้ มิฉะนั้น ผู้ต้องขังก็จะสามารถดัดแปลงพ่วงสายเพื่อต่อชาร์จโทรศัพท์ได้ การตรวจค้นครั้งนี้ถือเป็นการประสบผลสำเร็จอีกขั้นตอนหนึ่ง เพื่อเป็นการตัดวงจรในการสั่งซื้อยาเสพติดในเรือนจำ