xs
xsm
sm
md
lg

จับอดีตผู้ต้องขังโยนยาบ้าโทรศัพท์ข้ามกำแพงเรือนจำอุบลฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี จับอดีตผู้ต้องขังมุดรั้วเข้ามาใกล้กำแพงยามวิกาล ก่อนใช้หนังสติ๊กยิงกระเป๋าข้ามเข้าในเรือนจำ แต่แรงส่งไม่ถึงติดคารั้วลวดหนามบนกำแพง เมื่อแกะตรวจสอบพบโทรศัพท์มือยาบ้า ยาไอซ์ พร้อมอุปกรณ์การเสพ สารภาพได้ค่าจ้างเป็นยาบ้า 100 เม็ด สำหรับยาบ้าและมือถือหากเล็ดรอดเข้าเรือนจำมีราคาแพงหลายสิบเท่าตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.45 น.วันที่ 20 มี.ค.พ.ต.ต.อนุลักษณ์ ท่าม่วง สวป.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้เข้าควบตัว นายชุมแสง กันยาทอง อายุ 35 ปีบริเวณกำแพงด้านทิศใต้เรือนจำกลางอุบลราชธานี ชุมชนโพธิ์ทอง ถ.พโลชัย ต.ในเมือง อ.เมือง

โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เรือนจำประจำป้อมตรวจการณ์บนกำแพงพบนายชุมแสงมุดรั้วลวดหนามลอบเข้ามาใกล้กำแพงเรือนจำและใช้หนังสติ๊กยิงกระเป๋าผ้าใส่สิ่งของข้ามเข้าไปในเรือนจำแต่กระเป๋ามาติดบริเวณรั้วลวดหนามกำแพงด้านบน

จึงเข้าควบคุมตัวไว้เมื่อแกะกระเป๋าออกตรวจสอบพบมือถือไอโมบาย 2 เครื่อง และโนเกียอีก 1 เครื่อง พร้อมที่ชาร์จแบตเตอรี่ และหูฟัง 3 ชุด พันด้วยเทปกาวอย่างหนาแน่น ขณะที่อีกห่อเมื่อแกะออกดูพบยาบ้าจำนวน 570 เม็ด และยาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใสหนัก 6 กรัม นอกจากนี้ ยังมีไฟแช็ก 7 อัน หลอดแก้วทรงกลมใช้เป็นอุปกรณ์การเสพอีก 1 ชุด

จากการสอบถาม นายชุมแสง ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้ต้องหาของเรือนจำแห่งนี้ และมีภูมิลำเนาอยู่ในชุมชนโพธิ์ทอง ที่ตั้งอยู่ด้านหลังเรือนจำรับสารภาพว่า ช่วงหัวค่ำวันเดียวกันนี้ มีชายไทยไม่ทราบชื่อนำสิ่งของและยาบ้าทั้งหมดมามอบให้โดยให้นายชุมแสงใช้หนังสติ๊กยิงกระเป๋าผ้าใส่ของทั้งหมดเข้าไปในเรือนจำ บริเวณจุดที่เป็นเรือนนอนนักโทษเด็ดขาดที่สร้างใหม่

ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกำแพงด้านทิศใต้เมื่อสิ่งของถูกยิงเข้าไปนักโทษที่อยู่ในเรือนนอนจะใช้เบ็ดตกปลาเกี่ยวเข้าไปในเรือนนอนเอง หลังเสร็จงานจะได้รับค่าจ้างเป็นยาบ้าจำนวน 100 เม็ดระหว่างนายชุมแสง มุดข้ามรั้วเข้ามาถึงชั้นที่ 2 และยิงของเข้าไปเจ้าหน้าที่ประจำป้อมตรวจการณ์บนกำแพงฉายไฟมาพบเข้าพอดี จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ภาคพื้นดินด้านนอกเข้ามาจับตัวไว้ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายชุมแสง บุกรุกสถานที่ราชการในเวลาวิกาล มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย นอกจากนี้ จากการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหารายนี้ พบผลเป็นบวกด้วยรายงานเปิดเผยจากเรือนจำแห่งนี้ว่า นอกจากมีพฤติกรรมคนภายนอกใช้หนังสติ๊กยิงของเข้ามาในเรือนจำแล้วเมื่อวันก่อนเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบการใช้ท่อพีวีซีใส่แก๊สเคลเซียนไบด์บายใช้น้ำหยอด เพื่อทำให้เกิดแก๊สอะเซฟีลีนแล้วจุดด้วยไฟก็จะสามารถยิงของที่บรรจุอยู่ในท่อพีวีซีเข้าไปในเรือนจำได้ด้วย

สำหรับยาบ้าหากเล็ดรอดเข้าไปในเรือนจำมีราคาสูงถึงเม็ดละ 1,500-2,000 บาท ไฟแช็กอันละ 200 บาท ส่วนโทรศัพท์มือถือมีราคาถึงเครื่องละ 30,000 บาท

รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.สมคิด ทิพย์จักรพงษ์ รอง ผกก.3บก.ปทส.นำกำลังในกองกำกับการเขต 3 จำนวน 60 นาย ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดตามโครงการตำรวจสีขาวที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชุมชนโนนผึ้งบ้านทุ่งเกษตร ต.คูเมือง อ.วารินชำราบ ปรากฏว่าไม่พบข้าราชการตำรวจในสังกัดรายใดมีผลเป็นบวก พงษ์สันต์ เตชะเสน-รายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น