หอการค้าแปดริ้วขานรับรถไฟรางคู่ ชูแปดริ้วเมืองน่าอยู่

ฉะเชิงเทรา - หอการค้าแปดริ้วขานรับรถไฟระบบรางคู่ ชูแปดริ้วเป็นเมืองน่าอยู่ เหมาะเป็นรังนอนสำหรับคนเมืองกรุงเข้าพักอาศัย พร้อมรองรับการขยายตัวจากนครหลวง เผย หากระบบการขนส่งแบบใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใช้งานไปล่าสุดดีเยี่ยม ช่วยทำให้รถไฟเดินทางมาตรงต่อเวลา จะส่งผลดีอย่างยิ่งต่อการพัฒนาพื้นที่

วันนี้ (25 ม.ค.) นายวัฒนา รัตนวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีการพัฒนาระบบขนส่งรูปแบบใหม่ทางรถไฟให้เป็นแบบรางคู่ในสายตะวันออก และเพิ่งเปิดตัวใช้งานไปได้ไม่นานมานี้ (12 ม.ค.) จะทำให้การเดินรถไฟที่เคยล่าช้าและไม่ตรงต่อเวลา สามารถเดินทางไปถึงยังที่หมายปลายทางได้ในเวลาที่กำหนด จะช่วยส่งผลดีต่อภาคการขนส่งของจังหวัดอย่างมาก โดยเฉพาะการขนส่งผู้โดยสารระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา ที่จะเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่ในกรุงเทพฯนั้น จะช่วยให้เศรษฐกิจของเมืองฉะเชิงเทราเจริญเติบโต

เนื่องจากจังหวัดฉะเชิงเทรา นั้น อยู่ติดกับเมืองหลวง จึงเหมาะที่จะเป็นที่พักอาศัยของคนกรุงเทพฯในอนาคต เพื่อลดความแออัดของผู้คนออกมาจากในตัวเมืองกรุง เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้าน และที่ดิน ภายในจังหวัดฉะเชิงเทรานั้น มีราคาถูก ที่แตกต่างไปจากราคาที่ดินรวมถึงที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ อย่างมากจนอาจเรียกได้ว่าถูกกว่ากันนับสิบเท่าตัวก็ว่าได้

นอกจากนี้ ปัญหาด้านมลพิษสิ่งแวดล้อมนั้นยังมีน้อยกว่า โดยอากาศนั้นดีกว่า บริสุทธิ์กว่าในกรุงเทพฯ อย่างมาก รวมทั้งฉะเชิงเทรายังเป็นเมืองที่สงบ มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามอีกหลายด้าน

สำหรับการเดินทางจากตัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าไปยังในกรุงเทพฯนั้น ปกติจะให้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม.เศษ และหากการขนส่งระบบรางคู่ของรถไฟมีประสิทธิภาพสูงเพียงพอที่จะทำให้การเดินรถขนส่งผู้โดยสารต่อจากนี้ไป “ตรงต่อเวลา” หรือเร็วขึ้นกว่าเก่า โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม.ก็จะส่งผลดีต่อภาคการขนส่ง และระบบเศรษฐกิจภายในจังหวัดเป็นอย่างมากโดยเฉพาะธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ก็จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่

ส่วนภาคการขนส่งสินค้านั้น อาจมองว่า คน จ.ฉะเชิงเทรา นั้นไม่ได้ประโยชน์จากการเปิดใช้งานรถไฟระบบรางคู่แต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีสถานีหรือท่าการขนถ่ายสินค้าในจุดที่เหมาะสมในพื้นที่โดยที่ผ่านมานั้นทางการรถไฟได้เคยก่อตั้งสถานีขนถ่ายสินค้ามาก่อนหน้าแล้วแห่งหนึ่งที่สถานีรถไฟคลอง19 อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากภาคเอกชนไม่นิยมเข้าไปใช้บริการ

สาเหตุจากสถานีขนถ่ายสินค้าดังกล่าวนั้น ถูกนำไปตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ที่กลางทุ่งนา ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ในพื้นที่หรือมีเพียงโรงงานขนาดเล็กและเป็นส่วนน้อยจึงไม่ได้รับความนิยมจากภาคเอกชนเท่าที่ควร เนื่องจากภาคเอกชนอาจมองว่า การเข้าไปใช้งานที่ท่าขนถ่ายสินค้าสถานีรถไฟคลอง 19 นั้น ไม่สะดวกเท่ากับการขนถ่ายทางรถยนต์ เนื่องจากพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา นั้น อยู่ไม่ไกลจากท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิและท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังมากนักเมื่อเทียบกับระยะทางและความสะดวกของการขนส่งแล้วไม่แตกต่างกัน จากสถานีขนถ่ายสินค้าคลอง 19 จึงยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์เท่าที่ควร