ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ในคูเมืองโดนแล้วฝุ่นละอองเกิน 200 ไมโครกรัม หลังตัวเลขสถานีโรงเรียนยุพราชทะลุหลัก 210-ทำสถิติสูงสุดใหม่ให้จังหวัดเรียบร้อย พบมีเชียงราย-พะเยา- แม่ฮ่องสอน สถิติฝุ่นละอองเกิน 200 เป็นเพื่อน
ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนของจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ (10 มี.ค. 2555) ได้เพิ่มสูงจนเกินระดับ 200 ไมโครกรัมต่อลุกบาศก์เมตรอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังเป็นสถิติที่สูงที่สุดของจังหวัดนับตั้งแต่เกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าขึ้นอีกด้วย
ผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ สามารถวัดค่า PM10 ได้ที่ 182.34 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 128 ขณะที่ผลการตรวจวัดที่สถานีตรวจวัดอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย สามารถวัดค่า PM10 ได้ที่ 211.87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 140
ค่า PM10 ที่ตรวจวัดได้จากสถานีดังกล่าวได้เพิ่มสูงขึ้นจนเกินระดับ 200 ไมโครกรัมตั้งแต่เวลา 08.00 น. ก่อนจะเพิ่มสูงขึ้นจนกลายเป็นสถิติค่า PM10 ที่สูงที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ นับตั้งแต่เกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเป็นต้นมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้สถิติค่า PM10 สูงสุดของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ 204.72 จากการตรวจวัดที่สถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันผลการตรวจวัดค่า PM10 ที่ได้ในวันนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าในเขตพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะภายในบริเวณคูเมืองและกำแพงเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนที่สถานีตรวจวัดอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยตั้งอยู่ มีปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นจนเกินระดับ 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้วด้วยเช่นกัน ต่างกับสถิติก่อนหน้านี้ที่การตรวจพบปริมาณค่า PM10 ที่เพิ่มสูงจนเกินระดับ 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรนั้น จะพบจากสถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่มาโดยตลอด
ส่วนปริมาณค่า PM10 ที่ตรวจวัดได้จากจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคเหนือในวันนี้ พบว่าสถิติหลายจังหวัดมีปริมาณสูงกว่า 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ได้แก่ ที่สถานีตรวจวัดอากาศแม่ฮ่องสอน วัดได้ 210.33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตรวจวัดอากาศอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 236.96 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสถานีตรวจวัดอากาศเชียงราย วัดได้ 290.33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนของจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ (10 มี.ค. 2555) ได้เพิ่มสูงจนเกินระดับ 200 ไมโครกรัมต่อลุกบาศก์เมตรอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังเป็นสถิติที่สูงที่สุดของจังหวัดนับตั้งแต่เกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าขึ้นอีกด้วย
ผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ สามารถวัดค่า PM10 ได้ที่ 182.34 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 128 ขณะที่ผลการตรวจวัดที่สถานีตรวจวัดอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย สามารถวัดค่า PM10 ได้ที่ 211.87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 140
ค่า PM10 ที่ตรวจวัดได้จากสถานีดังกล่าวได้เพิ่มสูงขึ้นจนเกินระดับ 200 ไมโครกรัมตั้งแต่เวลา 08.00 น. ก่อนจะเพิ่มสูงขึ้นจนกลายเป็นสถิติค่า PM10 ที่สูงที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ นับตั้งแต่เกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเป็นต้นมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้สถิติค่า PM10 สูงสุดของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ 204.72 จากการตรวจวัดที่สถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันผลการตรวจวัดค่า PM10 ที่ได้ในวันนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าในเขตพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะภายในบริเวณคูเมืองและกำแพงเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนที่สถานีตรวจวัดอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยตั้งอยู่ มีปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นจนเกินระดับ 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้วด้วยเช่นกัน ต่างกับสถิติก่อนหน้านี้ที่การตรวจพบปริมาณค่า PM10 ที่เพิ่มสูงจนเกินระดับ 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรนั้น จะพบจากสถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่มาโดยตลอด
ส่วนปริมาณค่า PM10 ที่ตรวจวัดได้จากจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคเหนือในวันนี้ พบว่าสถิติหลายจังหวัดมีปริมาณสูงกว่า 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ได้แก่ ที่สถานีตรวจวัดอากาศแม่ฮ่องสอน วัดได้ 210.33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตรวจวัดอากาศอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 236.96 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสถานีตรวจวัดอากาศเชียงราย วัดได้ 290.33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร