พะเยา - ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพะเยา เผย สถิติผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เพิ่ม 74% คนเป็นภูมิแพ้ เพิ่ม 73% ขณะที่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศที่พะเยายังเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (27 ก.พ.) นายแพทย์ เธียรชัย คฤหโยธิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพะเยา เปิดเผยถึงสถิติผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ที่รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบรุนแรงในพื้นที่จังหวัดพะเยา ว่า จากรายงานสถิติผู้ป่วยของโรงพยาบาลพะเยา ตั้งแต่วันที่ 19-25 ก.พ.55 ที่ผ่านมาพบว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง จาก 4 กลุ่มโรคหลัก คือ ผู้ป่วยกลุ่มโรคตาอักเสบ จากเดิมจำนวน 52 ราย เพิ่มขึ้น 68 ราย หรือคิดเป็น 17%, กลุ่มโรคหลอดเลือดและหัวใจจากเดิม 945 ราย เพิ่มขึ้น 1,212 ราย หรือคิดเป็น 28%, กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด จากเดิม 449 ราย เพิ่มขึ้น 789 ราย หรือคิดเป็น 74% และกลุ่มภูมิแพ้ จากเดิมจำนวน 83 ราย เพิ่มขึ้น 144 หรือคิดเป็น 73%
นายแพทย์ เธียรชัย บอกอีกว่า ช่วงนี้ขอให้ประชาชนงดออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง และหากจำเป็นต้องเดินทางออกนอกบ้านต้องหาหน้ากากอนามัยสวมใส่ โดยขณะนี้ทางโรงพยาบาลพะเยาได้นำหน้ากากอนามัยออกแจกจ่ายประชาชนเพื่อป้องกันหมอกควัน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่แล้ว
ขณะที่สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่พะเยา ล่าสุดระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) ในอากาศยังคงสูงเกินค่ามาตรฐานติดต่อกัน จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สถานีอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง วันนี้ (27 ก.พ.) มีค่าเท่ากับ 278.71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) มีค่าเท่ากับ 229.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
ขณะที่คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ หลายจังหวัดในภาคเหนือตอนบนโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ลำปาง น่าน ลำพูน แพร่ แม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่ ที่พบฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน