ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ขึ้นเครื่องบินติดตามดูการทำฝนเทียม ระบุ เริ่มที่เชียงใหม่เป็นที่แรกในภาคเหนือ มั่นใจประสบความสำเร็จ-ช่วยบรรเทาปัญหา แถมก่อนหน้าเดินทางไปมอบหน้ากากอนามัยเด็กนักเรียน แจงถือเป็นมาตรการป้องกัน พร้อมยอมรับการเผายังเยอะ-คนแอบเผาช่วงกลางคืน สั่งการท้องที่จัดชุดเคลื่อนที่เร็วดูแลแล้ว
วันนี้ (27 ก.พ.) หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปยังท่าอากาศยานกองบิน 41 จ.เชียงใหม่ เพื่อขึ้นเครื่องบินติดตามดูการปฏิบัติการทำฝนเทียมของของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ที่เริ่มปฏิบัติการในวันนี้เป็นวันแรก
การดำเนินการทำฝนเทียมของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือในวันนี้ ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในพื้นที่ภาคเหนือในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงได้ตัดสินใจดำเนินการทำฝนเทียมให้เร็วขึ้น หลังจากปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน และดัชนีคุณภาพอากาศของหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มสูงเกินกว่าค่ามาตรฐาน
หม่อมหลวง ปนัดดา กล่าวก่อนขึ้นเครื่องบินเพื่อติดตามดูการทำฝนเทียมในครั้งนี้ว่า การทำฝนเทียมที่ จ.เชียงใหม่ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในพื้นที่ภาคเหนือ โดยตั้งเป้าเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหมอกควันที่ปกคลุมหนาแน่นในพื้นที่ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการดำเนินการในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์หมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นบรรเทาความรุนแรงลงได้
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางมาขึ้นเครื่องบินติดตามดูการปฏิบัติการทำฝนเทียม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังได้เดินทางไปเป็นประธานในการมอบหน้ากากอนามัยให้กับนักเรียนของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้นำหน้ากากอนามัยจำนวนประมาณ 1,000 ชิ้น มอบให้กับทางโรงเรียนเพื่อใช้แจกจ่ายให้กับนักเรียนต่อไป
หม่อมหลวง ปนัดดา กล่าวว่า หน้ากากอนามัยที่นำมามอบให้กับทางโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยในครั้งนี้จะแจกจ่ายไปยังกลุ่มนักเรียนที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง รวมทั้งนักเรียนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก และถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่าที่จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างให้ความสำคัญและร่วมมือกันพยายามป้องกันและบรรเทาปัญหาดังกล่าว รวมทั้งการควบคุมไม่ให้มีการเผาเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่า ยังคงมีการเผาในที่โล่งเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.เชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง แม้จะพยายามรณรงค์ให้หลีกเลี่ยงหรืองดการเผาอย่างต่อเนื่องก็ตาม ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการลักลอบเผาในช่วงเวลากลางคืนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในเรื่องดังกล่าวได้สั่งการให้แต่ละพื้นที่จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อติดตามดูแลในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยหากมีการแจ้งเรื่องการเผามายังพื้นที่ ชุดเคลื่อนที่เร็วก็จะออกไปตรวจสอบและระงับเหตุทันที นอกจากนี้ จะมีการดำเนินมาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย