ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แม่ทัพน้อยที่ 3 ประชุมตัวแทน 9 จว.เหนือตอนบน หารือแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า พบทุกจังหวัดมีแผนงานครอบคลุมการแก้ปัญหาแต่การดำเนินการยังไร้ผล แนะควรต้องมีการทบทวนการทำงานและหาข้อบกพร่องด่วน ย้ำ หน่วยทหารพร้อมให้การสนับสนุนการทำงานทั้งกำลังพลและเครื่องมือ โดยสามารถร้องขอได้ตลอดเวลา ขณะที่ลำพูน เผย สถานการณ์ยังย่ำแย่ รับพร้อมประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติทันทีหากยังเลวร้าย ด้านเชียงใหม่จัดงบประมาณสนับสนุน 126 ตำบลๆ ละ 2.7 หมื่นบาท จัดชุดเคลื่อนที่เร็วสกัดไฟป่า ย้ำชัดไม่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย เหตุหวั่นกระทบการท่องเที่ยว
วันนี้ (8 มี.ค.) ที่ห้องประชุม กองกำลังผาเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจควบคุมไฟป่าและหมอกควัน กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมประสานงานการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดหรือตัวแทนจาก 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน และตาก รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยการประชุมครั้งนี้เพื่อรับทราบแผนปฏิบัติการของศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
รวมทั้งบูรณาการการควบคุมไฟป่าและหมอกควันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของมณฑลทหารบก จังหวัดทหารบก หน่วยทหารในพื้นที่ และกองกำลังป้องกันชายแดน ประสานการปฏิบัติกับศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ในการจัดกำลังชุดปฏิบัติการควบคุมไฟป่าและหมอกควันของหน่วยทหารที่ได้จัดเตรียมไว้แล้ว 100 ชุด เข้าช่วยเหลือในการควบคุมไฟป่าโดยกองทัพภาคที่ 3 สนับสนุนงบประมาณ และประสานการปฏิบัติในการจัดเตรียมแผนปฏิบัติการควบคุมไฟป่าและหมอกควัน โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ด้วยการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกับหน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ กล่าวในการประชุมว่า จากการรับทราบรายงานข้อมูลสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและการดำเนินการไขปัญหาของทุกจังหวัด พบว่า ทุกจังหวัดมีแผนงานในการดำเนินการครอบคลุมการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม กลับพบว่าปัญหาหมอกควันไฟป่ายังคงมีความรุนแรงและไม่ดีขึ้น ซึ่งเห็นว่าแต่ละจังหวัดและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะมีการทบทวนดูว่าแผนการทำงานหรือการดำเนินการที่ผ่านมามีข้อบกพร่องตรงจุดใด แล้วทำการปรับปรุงเพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับการดำเนินการในส่วนของทหารนั้น พล.ท.ชาญชัยณรงค์ กล่าวว่า ทางหน่วยทหารมีความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างเต็มที่ เพราะมีความพร้อมทั้งทางด้านกำลังพลและเครื่องมืออุปกรณ์เป็นอย่างดี พร้อมที่จะเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันทีหากได้รับการประสานงานเข้ามา
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ได้มีการกำชับสั่งการหน่วยทหารด้วยว่าจะต้องทำงานแก้ไขปัญหาในเชิงรุกมากขึ้น อย่ารอเพียงการประสานขอความช่วยเหลือจากทางจังหวัดหรือหน่วยงานต่างๆ เท่านั้น แต่ให้พร้อมและเข้าปฏิบัติการได้ทันทีที่มีปัญหาเกิดขึ้นในพื้นที่
ด้าน นายชุมพร แสงมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำพูนในภาพรวมแล้วถือว่ายังมีความรุนแรง โดยในเดือน ก.พ.55 ที่ผ่านมามีจำนวนวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 11 วัน หรือ 1 ใน 3 ของเดือน ขณะที่ในช่วง 7 วันแรกของเดือน มี.ค.55 เกินค่ามาตรฐานไปแล้ว 5 วัน ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัดได้มีการรณรงค์ให้ความรู้ ทำความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชนให้งดการเผามาอย่างเนื่องแล้วแต่ยังมีปัญหาอยู่ และในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานก็ได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนระวังดูแลรักษาสุขภาพแล้ว
ทั้งนี้ หากค่าฝุ่นละอองยังเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่องและสถานการณ์ไม่ดีขึ้น โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างชัดเจน ทางจังหวัดลำพูนก็พร้อมที่จะประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพราะห่วงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชนมากกว่าผลกระทบท่องเที่ยว
ขณะที่ นายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม เวลานี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดเชียงใหม่กำลังเร่งดำเนินการในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่เพื่อให้ปัญหาคลี่คลายหรือบรรเทาเบาบางลงภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
ทั้งนี้ แผนงานล่าสุดที่จะมีการนำมาใช้คือการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วในการลาดตระเวนเฝ้าระวังและดับไฟป่าในพื้นที่ 126 ตำบลจุดเสี่ยงของจังหวัด โดยทางจังหวัดเชียงใหม่สนับสนุนงบประมาณให้หมู่บ้านละ 27,000 บาท
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะทำให้สถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าคลี่คลายลงไปได้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามในช่วงหลังจากนั้นหากยังคงมีการเผากันอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่ต่างๆ แล้ว ยอมรับว่าน่าเป็นห่วงว่าสถานการณ์ปัญหาจะกลับมามีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะต้องมีการเฝ้าติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องต่อไป ส่วนการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัตินั้น คงจะยังไม่มีการประกาศดังกล่าว เพราะหวั่นเกรงว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการท่องเที่ยว
