อุดรธานี - กัดกันเละ ไพร่แดงเมืองอุดรฯ กลุ่มสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงแถลงข่าวแฉกลับพฤติกรรมชั่ว “ขวัญชัย ไพรพนา” หลังถูกต่อต้านเปิดหมู่บ้านคนเสื้อแดง อ้างมีผลประโยชน์แอบแฝง ขณะที่อดีตคนสนิทขวัญชัยขู่หอบหลักฐานแจ้งความทั้งกรณีถูกใส่ร้ายเป็นกิ๊กคนมีเมียแล้ว กรณีหุ้นส่วนเปิดวิทยุคลื่นมวลชนสัมพันธ์ ด้านขวัญชัยท้าให้แจ้งความและพร้อมจะแจ้งความกลับเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุดรธานีว่า เมื่อเย็นวานนี้ (7 มี.ค.) ที่สถานีวิทยุเอฟเอ็ม 106.75 เมกะเฮิรตซ์ ชุมชนคนรักไท สมาชิกคนเสื้อแดงที่อยู่ในกลุ่มของสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย ร.ต.ต.กมลศิลป์ สิงหสริยะ ประธานสมาพันธ์ฯ นางรัตนาวรรณ สุขศาลา กรรมการสถานีวิทยุฯ นางปาริชาติ จวงจันทร์ ผู้ที่เคยติดคุกในกรณีก่อความไม่สงบ น.ส.กุหลาบ ยศอ่อน อดีตคนสนิทขวัญชัย นางรัตนา ศรีสอง นักจัดรายการวิทยุ พระสง่า มนาโป พระบุญแสน ยะติกโร ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีนายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา พร้อมพวกกล่าวหาในกรณีต่างๆ เช่น การตั้งสถานีวิทยุ คลื่น 106.75 เมกะเฮิรตซ์ การจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยเพื่อหาเงิน การขายหุ้นเพื่อการจัดตั้งสถานีวิทยุ 97.5 เมกะเฮิรตซ์
นางรัตนาวรรณ สุขศาลา กรรมการสถานีวิทยุชุมชนคนรักไท เอฟเอ็ม 106.75 เมกะเฮิรตซ์ กล่าวว่า การตั้งสถานีวิทยุดังกล่าวขึ้นมา มีเจตนาที่จะทำการเสนอข่าวการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงจังหวัดอุดรธานีและทั่วประเทศ เพื่อเผยแพร่ข่าวสารให้สมาชิกของคนเสื้อแดงได้รับทราบ โดยไม่ได้มีผลประโยชน์อื่นแอบแฝงแต่อย่างใด
ร.ต.ต.กมลศิลป์ สิงหสริยะ ประธานสมาพันธ์หมู่บ้านคนเสื้อแดงฯ กล่าวถึงการต่อต้านของนายขวัญชัย ต่อการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยว่า การเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงนั้นได้มีการประสานงานกับคนเสื้อแดงในหมู่บ้านนั้นๆ ก่อน หากคนเสื้อแดงในหมู่บ้านเห็นด้วยเกินครึ่งหนึ่งของคนในหมู่บ้าน ก็จะดำเนินการเปิดให้เป็นหมู่บ้านเสื้อแดง การเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงไม่ได้เป็นการบังคับตามที่นายขวัญชัยกล่าวอ้าง ถือว่ามันเป็นความคิดของที่ไม่มีสมอง
ขณะที่นางปาริชาติ จวงจันทร์ อดีตผู้ที่เคยติดคุกในกรณีก่อความไม่สงบเมื่อปี พ.ศ. 2553 ได้กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลังตนเองออกจากคุกนั้นตนมีความอึดอัดมาก โดยเฉพาะกรณี ที่นายขวัญชัยได้โทรศัพท์มาด่าหาว่าตนเองไปเข้ากับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เพราะไม่มีข้าวกิน และที่ตนเองติดคุกก็เพราะเป็นพวกไทยมุงต้องการเงิน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ตนเองและสามีติดคุกอยู่นั้น นายขวัญชัยไม่เคยไปเยี่ยม หรือไปช่วยเหลืออะไรเลย
พระสง่า มนาโป และพระบุญแสน ยะติกโร แนวร่วมคนเสื้อแดงก็กล่าวว่า การที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผ้าเหลืองห่มตอดูแล้วไม่สมควร ไปร่วมงานชุมนุมที่โบนันซ่า เขาใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์นั้น ก็อยากจะบอกให้รู้ว่าในรัฐธรรมนูญนั้นให้สิทธิแก่บุคคลทุกคน สถานที่แห่งนั้นมีผับมีบาร์ มีซ่องมีโสเภณีหรือ การที่ถูกกล่าวหาพาดพิงว่ารับเงินจากสถานีวิทยุ ถือว่าเป็นเรื่องไร้สาระ คำพูดให้ร้ายลักษณะนี้อย่าให้ตนได้ยินอีก
ส่วน น.ส.กุหลาบ ยศอ่อน อดีตคนสนิทนายขวัญชัย ได้นำหลักฐานเอกสารใบขายหุ้นการตั้งสถานีวิทยุ 97.5 เมกะเฮิรตซ์ ในนาม บริษัท คลื่นมวลชนสัมพันธ์ จำกัด หุ้นละ 1,000 บาท จำนวน 10 หุ้นเป็นเงิน 10,000 บาท พร้อมกับชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่าการตั้งสถานีดังกล่าวมีเงินลงทุนสูงถึง 1.6 ล้านบาทเศษ
แต่ตั้งแต่ตั้งสถานีวิทยุคลื่นมวลสัมพันธ์มานั้น ไม่เคยมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าเงินทุนมีกำไรหรือขาดทุน ซึ่งตนเองจะต้องสอบถามหุ้นส่วนคนอื่นๆ จะเอาอย่างไร และตนเองพร้อมที่จะแจ้งความดำเนินตามกฎหมายกับนายขวัญชัย
เรื่องต่อมา กรณีการที่นายขวัญชัยเอาเรื่องส่วนตัวของตนเองไปพูดในทางที่เสื่อมเสีย เสียชื่อเสียงและพาดพิงไปถึงบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นข้าราชการ และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ครอบครัวของบุคคลดังกล่าวซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่จัดรายการด้วยกัน จนทำให้ครอบครัวของบุคคลดังกล่าวเกิดความแตกแยก ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เป็นเรื่องตามที่นายขวัญชัยกล่าวหาให้ร้ายแต่อย่างใด
อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ตนต้องลาออกจากสถานีวิทยุ 97.5 เมกะเฮิรตซ์ ที่มีนายขวัญชัยเป็นผู้ดูแลก็คือ สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งกรณีการจัดงานคอนเสิร์ต ซึ่งตนก็ลาออกมาตั้ง 2 ปีมาแล้ว แต่ในระยะ 2 ปี นายขวัญชัยก็ได้มีการกล่าวเสียดสี ให้ร้ายต่อตนมาโดยตลอด แม้ว่าตนจะทำเรื่องชี้แจงไปแล้วก็ตาม แต่นายขวัญชัยก็ยังไม่ยอมเลิกรา ทั้งยังกล่าวว่าตนเองในทางที่เสื่อมเสีย และไม่ให้เกียรติกัน ซึ่งตนก็บันทึกเทปเอาไว้ทุกเรื่อง และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อนายขวัญชัยต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์นายขวัญชัย ทางโทรศัพท์ ซึ่งนายขวัญชัยก็เปิดเผยว่า ตนยังไม่ทราบกรณีที่ทางสถานีวิทยุ 106.75 เมกะเฮิรตซ์ มีการแถลงข่าวแต่อย่างใด แต่ตนก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนเหล่านั้น ไม่ได้สนใจเพราะเป็นเรื่องไร้สาระมีแต่พวกคนตอแหล วันทั้งวันรายการไม่เห็นมีสาระแต่อย่างใดเอาแต่ด่าตนอย่างเดียว
ส่วนเรื่องของการขายหุ้นและการจัดตั้งสถานีวิทยุ 97.5 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อปี พ.ศ. 2547 สมัยที่ตั้งอยู่ที่บริเวณตลาดเริ่มอุดม ถนนประจักษ์ฯ มาแถลงต่อสื่อมวลชนและแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของคลื่นขนาด 97.5 เมกะเฮิรตซ์นั้น นายขวัญชัยกล่าวว่าอยากให้ น.ส.กุหลาบ หรือหงส์ทองไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอให้ไปแจ้งทุกเรื่องตนพร้อมที่จะชี้แจงได้ทุกเรื่องเช่นกัน และจะแจ้งความกลับด้วย
พร้อมกันนี้ นายขวัญชัยได้ชี้แจงต่อไปอีกว่าสำหรับหุ้นส่วนและสถานีวิทยุ ที่ตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2547 ที่ตลาดเริ่มอุดมนั้น ได้แจ้งและปิดบริษัท เพราะช่วงดังกล่าวไม่มีโฆษณา ตนต้องเอาเงินส่วนตัวมาเป็นเงินเดือนลูกน้อง ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2550 ได้เอาชื่อของ น.ส.กุหลาบ ยศอ่อน หรือหงส์ทอง ดาวอุดร มาไว้ในสถานี
ในส่วนที่มีคนต้องการให้มีการรวมกัน ระหว่างชมรมคนรักอุดร และกลุ่มหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย นายขวัญชัยกล่าวว่า คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พวกไม่มีอุดมการณ์ ไม่มีการสร้างสรรค์ และตนขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า หากต้องการที่จะไปแจ้งความก็ให้ไปแจ้งได้เลย ตนพร้อมที่จะชี้แจง และพร้อมที่จะขอแจ้งความกลับทุกคนเช่นกัน