ศูนย์ข่าวศรีราชา - บ.ศรีราชาฮาร์เบอร์ เร่งชี้แจง หลัง DSI. เข้าตรวจสอบโกดังสินค้า หวั่นส่งผลกระทบต่อลูกค้า และสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง ด้าน DSI. ยันทำตามหน้าที่ พร้อมชี้ถูก-ผิด ภายใน 7 วัน
วันนี้ (28 ก.พ.55) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายพรชัย ขวัญสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุม เพื่อไกลเกลี่ย กรณีศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออก (DSI.) ได้เข้าไปตรวจสอบสินค้าในโกดังของบริษัทศรีราชา ฮาร์เบอร์ จำกัด(มหาชน) ที่อำเภอศรีราชา หลังได้รับข้อมูลว่า ท่าเรือดังกล่าว มีการกักเก็บวัตถุอันตราย โดยมีนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ประธานบริษัทศรีราชา ฮาร์เบอร์ จำกัด(มหาชน) ,อุตสาหกรรมจังหวัด , ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมสื่อมวลชนหลายแขนง ร่วมประชุมในครั้งนี้
นายสวัสดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2555 ได้มีเจ้าหน้าที่ DSI ภาคตะวันออก นำกำลังเข้าตรวจสอบโกดังสินค้าส่งออกหมายเลข 8 ของท่าเรือฯโดยแจ้งว่าเป็นสถานที่เก็บ “กากของเสียและเป็นวัตถุอันตราย” ที่เป็นผลต่อเนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเหล็ก
จากปัญหาที่เกิดขึ้น ตนหวั่นจะสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัทและลูกค้าที่มาใช้บริการท่าเรือฯ จึงต้องมาทำความเข้าใจและชี้แจง ถึงสินค้าที่นำเข้ามาให้หน่วยงานที่ดูแลและรับผิดชอบได้ทราบ ตลอดจนผู้สื่อข่าวที่ติดตามข้อมูลและเสนอข่าวไปนั้นอาจไม่ถูกต้องหรือไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน จึงมีการประชุมในครั้งนี้เกิดขึ้น
นายสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากทำความเข้าใจและได้รับการชี้แจงในครั้งนี้ ถือว่ากระจ่างและเป็นที่น่าพอใจ เพราะเป็นหน้าที่ของ DSI ที่จะเข้าดำเนินการตรวจสอบในทุกแห่ง หากทราบว่าสถานที่ใดหรือจุดใดมีของอันตรายหรือสิ่งผิดกฎหมาย ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
สำหรับบริษัท ศรีราชา ฮาร์เบอร์ นั้น เป็นท่าเรือที่ให้บริการในการขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออก ซึ่งไม่ใช่เจ้าของสินค้า ดังนั้น การนำสินค้าต่างๆผ่านท่าเรือฯจะต้องทำการตรวจสอบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่น จากบริษัท หรือเจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ ส่วนสินค้าที่ผ่านนั้นและถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ DSI นั้น ส่วนบริษัทภูเบี้ย มายนิ่ง จำกัด นั้นได้ทำธุรกิจกับท่าเรือฯมานานถึง 5 ปีแล้ว และจากการตรวจสอบพบว่าได้รับสัมปทานจากประเทศลาวอย่างถูกต้อง
นายสวัสดิ์ กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ที่ต้องมาชี้แจงและทำความเข้าใจนั้น เนื่องจากสินค้าดังกล่าว คือ สินแร่ทองแดง ทาง DSI มีข้อสงสัย จึงเป็นหน้าที่ที่สามารถเข้ามาตรวจสอบได้และในครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำความเข้าใจของทั้ง 2 ฝ่ายและไม่น่ามีปัญหาอะไรต่อไป
ด้านนายประวิทย์ ไชยบัวแดง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออก (DSI.) กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ DSI จึงต้องเข้าตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้เป็นการตรวจสอบในเบื้องต้นและขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบในขั้นสุดท้ายอีกครั้ง โดยจะทราบผลภายในอีก 7 วันนี้หากผิดจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป