พระนครศรีอยุธยา - พระสงฆ์วัดศรีภวังค์ อำเภอบางปะหัน พระนครศรีอยุธยา สุดทน บิณฑบาตขอร้อง “คุณโจร” อย่าขโมยโกศใส่กระดูกคนตาย พระพุทธรูปทองเหลือง พระเกศของพระพุทธรูป และสายไฟภายในวัด เพราะขณะนี้ไม่มีเหลือให้ขโมยอีกแล้ว พร้อมขอร้องตำรวจช่วยจับโจรให้ได้ เพราะเกรงว่าของต่างๆ ภายในวัดจะไม่เหลืออีก
วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงเหตุสะเทือนใจชาวพุทธ ซึ่งเกิดขึ้นที่วัดศรีภวังค์ ม.1 ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากมีชาวบ้านแจ้งว่า กลุ่มคนร้ายเข้าไปโจรกรรมสิ่งของภายในวัด เช่น โกศใส่กระดูกคนตาย พระพุทธรูปทองเหลือง พระเกศของพระพุทธรูป และสายไฟภายในวัดไม่เหลือให้พระได้ใช้ จึงไปตรวจสอบพบว่าวัดดังกล่าวตั้งอยู่กลางทุ่ง ห่างจากถนนใหญ่ 3.5 กิโลเมตร ซึ่งวัดแห่งนี้มีพระสงฆ์จำพรรษา 7 รูป
โดยพระครูสังฆรักษ์สงัด สุนทโร เลขานุการเจ้าคณะตำบลพุทเลา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา และดูแลวัดศรีภวังค์ บอกว่า ตนจำพรรษาที่วัดแห่งนี้มา 10 กว่าปี ส่วนข่าวที่มีคนร้ายทุบแท่นบรรจุโกศใส่กระดูกคนตายเอาไปเป็นเรื่องจริง จึงพาไปตรวจสอบที่บริเวณด้านหลังวัดฝั่งทิศตะวันตก มีแท่นบรรจุอัฐิตั้งเรียงรายจำนวนมาก และพบว่า แท่นบรรจุอัฐิทุกแท่น ถูกคนร้ายทุบ และยกเอายอดเจดีย์ออกมาวางไว้ด้านล่าง ส่วนภายในซึ่งเป็นโกศใส่กระดูนั้นหายไปทั้งหมด
พระครูสังฆรักษ์สงัด กล่าวว่า คนร้ายเข้ามาขโมยสิ่งของในวัดเป็นประจำ โดยเฉพาะโกศใส่กระดูก เคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าน่าจะเป็นคนในหมู่บ้านแต่ก็ยังจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ ที่น่ากังวลคือ นอกจากกลุ่มคนร้ายจะทุบที่บรรจุโกศใส่กระดูกด้านหลังวัดแล้ว ตอนนี้กลุ่มคนร้ายยังเข้ามาทุบช่องบรรจุโกศใส่กระดูกของชาวบ้าน ที่ฝังอยู่ในแนวกำแพงปูน ซึ่งเป็นรั้วของพระอุโบสถที่วัดดังกล่าวด้วย
เบื้องต้นพบคนร้ายทุบช่องบรรจุโกศใส่กระดูกมากกว่า 20 ช่อง และจะเลือกทุบเฉพาะคนตายที่นามสกุลดูแล้วจะมีเงิน เพราะเชื่อว่าโกศใส่กระดูกน่าจะเป็นทองเหลือง หรือไม้แกะสลักอย่างดี โดยเมื่อทุบเสร็จแล้วคนร้ายจะนำโกศใส่กระดูกไป ส่วนกระดูกจะเทไว้ในช่องบรรจุอัฐิ ซึ่งเป็นภาพที่น่าเวทนามาก ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายจะเข้ามาขโมยของในวัดช่วงกลางวัน โดยเฉพาะวันที่พระสงฆ์ในวัดทั้งหมด ออกไปรับกิจนิมนต์ ที่ไม่เข้ามาขโมยโกศในช่วงกลางคืนสงสัยคนร้ายจะกลัววิญญาณของคนตายหรือเจ้าของกระดูกก็เป็นไปได้
“อยากฝากไปถึงโจรทั้งหลาย ให้คำนึงถึงญาติคนตายด้วยว่า เขาจะเสียใจขนาดใหน ให้นึกเสียว่าหากคนร้ายเข้ามาขโมยโกศใส่กระดูกญาติท่านบ้าง แล้วทำในลักษณะที่คนร้ายทำ ก็จะมีความเจ็บใจไม่แพ้กัน ทั้งนี้ เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่เข้ามาขโมยในครั้งนี้ ไม่รู้นับถือศาสนาพุทธหรือเปล่า หากเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธ คงไม่ทำเช่นนี้ จะเป็นคนที่ติดยาเสพติดอย่างแน่นอน เพราะจะเลือกเอาเฉพาะทองเหลืองไปขาย
นอกจากโกศใส่กระดูกของชาวบ้านที่อยู่ในวัดจะหายไปแล้ว ยังพบว่าพระเกศของพระประธาน ซึ่งทำด้วยทองผสมทองเหลืองในพระอุโบสถ ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อเฒ่า ยังหายไปด้วย ส่วนพระพุทธรูปทองเหลืองในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพระที่ญาติโยมนำมาถวาย และเป็นพระที่วัดจัดสร้างขึ้นมานั้นก็หายไปทั้งหมด เหลือเพียงพระพุทธรูปที่ทำมาจากซิลิก้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กำลังเป็นปัญหามากในช่วงค่ำคืน คือ คนร้ายลักตัดสายไฟฟ้าภายในวัดแทบทั้งหมด เหลือเพียงแสงสว่างตรงกุฏิ กับพระอุโบสถ เท่านั้น”
วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงเหตุสะเทือนใจชาวพุทธ ซึ่งเกิดขึ้นที่วัดศรีภวังค์ ม.1 ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากมีชาวบ้านแจ้งว่า กลุ่มคนร้ายเข้าไปโจรกรรมสิ่งของภายในวัด เช่น โกศใส่กระดูกคนตาย พระพุทธรูปทองเหลือง พระเกศของพระพุทธรูป และสายไฟภายในวัดไม่เหลือให้พระได้ใช้ จึงไปตรวจสอบพบว่าวัดดังกล่าวตั้งอยู่กลางทุ่ง ห่างจากถนนใหญ่ 3.5 กิโลเมตร ซึ่งวัดแห่งนี้มีพระสงฆ์จำพรรษา 7 รูป
โดยพระครูสังฆรักษ์สงัด สุนทโร เลขานุการเจ้าคณะตำบลพุทเลา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา และดูแลวัดศรีภวังค์ บอกว่า ตนจำพรรษาที่วัดแห่งนี้มา 10 กว่าปี ส่วนข่าวที่มีคนร้ายทุบแท่นบรรจุโกศใส่กระดูกคนตายเอาไปเป็นเรื่องจริง จึงพาไปตรวจสอบที่บริเวณด้านหลังวัดฝั่งทิศตะวันตก มีแท่นบรรจุอัฐิตั้งเรียงรายจำนวนมาก และพบว่า แท่นบรรจุอัฐิทุกแท่น ถูกคนร้ายทุบ และยกเอายอดเจดีย์ออกมาวางไว้ด้านล่าง ส่วนภายในซึ่งเป็นโกศใส่กระดูนั้นหายไปทั้งหมด
พระครูสังฆรักษ์สงัด กล่าวว่า คนร้ายเข้ามาขโมยสิ่งของในวัดเป็นประจำ โดยเฉพาะโกศใส่กระดูก เคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าน่าจะเป็นคนในหมู่บ้านแต่ก็ยังจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ ที่น่ากังวลคือ นอกจากกลุ่มคนร้ายจะทุบที่บรรจุโกศใส่กระดูกด้านหลังวัดแล้ว ตอนนี้กลุ่มคนร้ายยังเข้ามาทุบช่องบรรจุโกศใส่กระดูกของชาวบ้าน ที่ฝังอยู่ในแนวกำแพงปูน ซึ่งเป็นรั้วของพระอุโบสถที่วัดดังกล่าวด้วย
เบื้องต้นพบคนร้ายทุบช่องบรรจุโกศใส่กระดูกมากกว่า 20 ช่อง และจะเลือกทุบเฉพาะคนตายที่นามสกุลดูแล้วจะมีเงิน เพราะเชื่อว่าโกศใส่กระดูกน่าจะเป็นทองเหลือง หรือไม้แกะสลักอย่างดี โดยเมื่อทุบเสร็จแล้วคนร้ายจะนำโกศใส่กระดูกไป ส่วนกระดูกจะเทไว้ในช่องบรรจุอัฐิ ซึ่งเป็นภาพที่น่าเวทนามาก ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายจะเข้ามาขโมยของในวัดช่วงกลางวัน โดยเฉพาะวันที่พระสงฆ์ในวัดทั้งหมด ออกไปรับกิจนิมนต์ ที่ไม่เข้ามาขโมยโกศในช่วงกลางคืนสงสัยคนร้ายจะกลัววิญญาณของคนตายหรือเจ้าของกระดูกก็เป็นไปได้
“อยากฝากไปถึงโจรทั้งหลาย ให้คำนึงถึงญาติคนตายด้วยว่า เขาจะเสียใจขนาดใหน ให้นึกเสียว่าหากคนร้ายเข้ามาขโมยโกศใส่กระดูกญาติท่านบ้าง แล้วทำในลักษณะที่คนร้ายทำ ก็จะมีความเจ็บใจไม่แพ้กัน ทั้งนี้ เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่เข้ามาขโมยในครั้งนี้ ไม่รู้นับถือศาสนาพุทธหรือเปล่า หากเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธ คงไม่ทำเช่นนี้ จะเป็นคนที่ติดยาเสพติดอย่างแน่นอน เพราะจะเลือกเอาเฉพาะทองเหลืองไปขาย
นอกจากโกศใส่กระดูกของชาวบ้านที่อยู่ในวัดจะหายไปแล้ว ยังพบว่าพระเกศของพระประธาน ซึ่งทำด้วยทองผสมทองเหลืองในพระอุโบสถ ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อเฒ่า ยังหายไปด้วย ส่วนพระพุทธรูปทองเหลืองในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพระที่ญาติโยมนำมาถวาย และเป็นพระที่วัดจัดสร้างขึ้นมานั้นก็หายไปทั้งหมด เหลือเพียงพระพุทธรูปที่ทำมาจากซิลิก้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กำลังเป็นปัญหามากในช่วงค่ำคืน คือ คนร้ายลักตัดสายไฟฟ้าภายในวัดแทบทั้งหมด เหลือเพียงแสงสว่างตรงกุฏิ กับพระอุโบสถ เท่านั้น”
