ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่มีพื้นเพอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทนดูดายเหตุทหารยิงชาวบ้านดับ 4 ศพไม่ได้ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักผ่านโลกออนไลน์โดยเฉพาะเฟสบุ๊ค
จากเหตุทหารพรานยิงชาวบ้านผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 4 ศพที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้ายนั้น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่มีพื้นเพอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างทนดูดายนิ่งเฉยต่อเรื่องดังกล่าวไม่ได้ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักผ่านโลกออนไลน์โดยเฉพาะเฟสบุ๊ค
โดยผู้ใช้รายหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพของญาติผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นระบายความอัดอั้นตันใจสรุปได้ว่า “อีกครั้งกับโศกนาฏกรรมของประชาชนชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ 4 คนที่ต้องสังเวยชีวิต เวลาผ่านไป 8 ปีกับการบังคับใช้อำนาจ พ.ร.ก.ในพื้นที่ ซึ่งให้อำนาจแก่ทหารตามอำเภอใจ ส่งผลให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นทุกวัน ชาวไทยมลายูมุสลิม(รวมถึงตัวผมเอง)ทุกวันนี้ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง กลัวผู้ก่อความไม่สงบยังไม่พอยังต้องมากลัวเจ้าหน้าที่ของรัฐอีก”
พร้อมทั้งกล่าวถึงเหตุความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “เหยื่อในเหตุการณ์ส่วนใหญ่ก็เป็นคนมุสลิมมลายู แถมยังถูกมองจากคนไทยทั่วประเทศที่ขาดความรู้ความเข้าใจอีกว่า คนมลายูมุสลิมเป็นคนไม่ดี ชอบใช้ความรุนแรง ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่เคยที่จะให้ความสนใจ จึงอยากถามว่าความยุติธรรมอยู่ที่ไหน แล้วประเทศไทยจะปล่อยให้พวกทหารดูดซับงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนไปหล่อเลี้ยงพรรคพวกของตนเองในพื้นที่ๆ ซึ่งประชาชนตาดำๆ ต้องเดือดร้อนเป็นตายอยู่ทุกวันอย่างนั้นหรือ และรัฐบาลทุกสมัยก็พยายามมองข้ามข้อเท็จจริง เนื่องจากเพื่อรักษาภาพลักษณ์หลอกสายตาชาวโลกไปวันๆ ภาพลักษณ์ที่ได้มาซึ่งต้องแลกกับเลือดเนื้อของประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย”
นอกจากนี้ ผู้ใช้รายอื่นๆ ต่างพากันแสดงความคิดเห็นสอดคล้องไปในทำนองเดียวกันว่าการเยียวยาของรัฐไม่สามารถแก้ไขเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ โดยเจ้าของเฟสบุ๊ค Maruwan Max Salaeh ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า “แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะบอกว่า "สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือการเยียวยาและการทำความเข้าใจ" แล้วจะต้องเยียวยาไปอีกกี่ราย” ส่วนผู้ใช้นาม Hassan Dumalee ให้ความเห็นว่า “ต้องเอาคนผิดมาลงโทษ ไม่ใช่แค่ย้าย หรือจ่ายเงินทดแทน” และเสนอให้ออกแถลงการณ์ในนามกลุ่มนักศึกษามุสลิมจังหวัดชายแดนใต้ด้วย
ซึ่งผ่านไปเพียง 6 ชั่วโมง ภาพและข้อความดังกล่าวมีการแชร์ต่อๆ กันไปโดยกลุ่มนักเรียน นักศึกษาผู้ที่มีพื้นเพอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งผู้ที่รู้สึกสะเทือนใจและกังขากับเหตุการณ์ดังกล่าว มากถึง 126 ครั้ง กดไลค์ (ถูกใจ) อีก 117 คน
นับเป็นอีกปรากฏการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่าหนุ่มสาวมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ยอมนิ่งดูดายกับการที่รัฐกระทำรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวอีกต่อไป และหากรัฐปล่อยให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ในพื้นที่อีกเรื่อยๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวโดยคนในพื้นที่ตามมาก็เป็นได้