xs
xsm
sm
md
lg

"เสี่ยวินัย" เจ้าของปางช้างไทรโยควอน จนท.อย่านำช้างส่งไปสถาบันคชบาลฯ หวั่นเลี้ยงดูไม่ดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - "เสี่ยวินัย" เจ้าของปางช้างไทรโยค ควงลูกสาว พร้อมทนายความ แถลงข่าววอน จนท.อย่านำช้างส่งไปสถาบันคชบาลฯ หวั่นการเลี้ยงดูไม่ดีพอ จนอาจจะทำให้ช้างผอม พร้อมเผยตลอดชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กมีความผูกพันกันช้างมาตลอด เคยมีช้างแค่เชือกเดียว สู้ชีวิตด้วยความบริสุทธิ์จนมีช้างถึง 51 เชือกและที่ผ่านมาได้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดกาญจนบุรีมาโดยตลอด และยังสร้างรายได้กระจายไปสู่ชุมชุม พร้อมเตรียมส่งหนังสือขอความเป็นธรรมถึงนายกฯ และหัวหน้าฝ่ายค้าน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (25 ก.พ.55) ที่บริเวณโรงแสดงช้าง ปางช้างไทรโยค เลขที่ 30/2 หมู่ 3 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายไชยพงษ์ แสนดี หรือเสี่ยวินัย อายุ 67 ปี เจ้าของปางช้างไทรโยค พร้อมด้วย ดร.เดือนเพ็ญ แสนดี ลูกสาว นายกฤตพล ศาลางาม เลขาสมาคมช้างไทย นายแสวง บุญลือ อุปายกสมาคมช้างไทย นายยาน สืบเทพ กรรมการสมาคมช้างไทย นางกันตา วิทูรผดุงกิจ นายรังสี ไผ่สะอาด สมาชิก อบต.ลุ่มสุ่ม และนายชะลอ ระจันแดง ทนายความปางช้างไทรโยค ทั้งหมดร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีนายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ และ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.ตรวจยึดช้างจำนวน 19 เชือก โดยจะมีการเคลื่อนช้างทั้งหมดไปที่สถาบันคชบาล แห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ จ.ลำปาง ภายในวันที่ 29 ก.พ.นี้

ทั้งนี้ นายไชยพงษ์ แสนดี หรือเสี่ยวินัย ได้แถลงว่า กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานฯไทรโยค อุทยานฯเอราวัณ กรมอุทยานแห่งชาติ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จะเข้าตรวจยึดช้างจำนวน 19 เชือก ในปางช้างไทรโยคอย่างไม่เป็นธรรม พร้อมมีการตั้งข้อสงสัยลูกช้างจำนวน 6 เชือก ว่า อาจจะเป็นช้างป่านั้น ซึ่งได้มีการนำเลือดของช้างแม่ลูก 6 เชือกเข้ารับการตรวจเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอ

ทางปางช้างไทรโยค ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ช้างจำนวน 19 เชือก ปางช้างไทรโยค ได้ทำการซื้อและครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยมีหลักฐานการซื้อขายอย่างชัดเจน

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดช้างและตั๋วรูปพรรณไม่ตรงกันและสรุปว่าเป็นการนำช้างป่าเข้ามาสวมสิทธิ์นั้น ในข้อเท็จจริงปางช้างไทรโยคขอยืนยันว่า ช้างดังกล่าวเป็นช้างบ้านที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือมาหลายครั้ง ซึ่งการซื้อขายช้างในอดีตทำกันแบบเรียบง่าย และไม่ได้มีการอัพเดทหรือทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวดว่า ช้างและตั๋วรูปพรรณ จะต้องตรงกันทุกประการแต่อย่างใด ขั้นตอนการซื้อขายทำแบบวิถีชีวิตของชาวบ้าน มีเพียงการออกเอกสารการซื้อขาย พร้อมทั้งส่งมอบตั๋วรูปพรรณเท่านั้น

นายไชยพงษ์ เปิดเผยต่อว่า ขั้นตอนการซื้อขายของตนนั้นก็ทำแบบวิถีชีวิตชาวบ้านเช่นเดียวกัน พอได้รับมอบช้างและตั๋วรูปพรรณตนก็ไม่ได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นเมื่อตนได้มีการให้เช่าช่างออกไปให้บริการในสถานที่ต่าง ๆ ในระยะยาว พอนำช้างกลับคืนมาก็ไม่ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อแก้ไขในตั๋วรูปพรรณ

ในส่วนของกรณีลูกช้างต้องสงสัยจำนวน 6 เชือก ทางปางช้างไทรโยคได้ส่งเลือดเพื่อตรวจ ดีเอ็นเอ ไปที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลปรากฏว่าเป็นช้างเลี้ยงตรงกับแม่พันธุ์ที่ปางช้างไทรโยคระบุทุกประการ ส่วนกรณีช้างใหญ่ที่ไม่สามารถหาพ่อแม่ของช้างได้ ก็ไม่สามารถที่จะทำการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ได้ ส่วนใหญ่ช้างมีการเปลี่ยนมาหลายมือ รวมทั้งมีการเช่าช้างออกไปให้บริการในระยะยาว ซึ่งสภาพการของช้างก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

"ผมเข้าใจเจตนาและวัตถุประสงค์ของส่วนราชการทุกแห่งที่เข้ามาตรวจสอบเป็นอย่างดี และแสดงความบริสุทธิ์ใจพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบทุกประการอีกทั้งตนเป็นครอบครัวที่เติบโตมากับช้าง มีความรักและเป็นห่วงช้างอย่างจริงใจ และเห็นว่านำช้างป่ามาสวมสิทธิ์ เป็นช้างบ้านนั้นเป็นการทำลาย ซึ่งทุกส่วนควรจะร่วมมือกันปกป้องช้าง ผมขอยืนยันว่าไม่เคยกระทำการตามที่ถูกตั้งข้อสงสัยแต่อย่างใด

นอกจากนั้นทางปางช้างขอยืนยันว่าการจัดตั้งปางช้างมีจุดประสงค์เพื่อให้บริการก่นักท่องเที่ยว และที่ผ่านมาก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสร้างงานให้กับคนในพื้นที่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของจังหวัดและประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ผลกระทบจากการดำเนินการของทางภาครัฐในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรีโดยตรงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศชาติอีกด้วย

ทั้งนี้ ทางปางช้างไทรโยคยังได่ยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อขอความเป็นธรรมและชี้ให้เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในวงกว้างต่อไป โดยหนังสือดังกล่าว ปางช้างไทรโยคได้ร่างขึ้นทั้งหมด 7 ฉบับ ส่งไปถึงนายอำเภอไทรโยค, ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี, คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และนายกรัฐมนตรี"

สำหรับบรรยากาศของการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ของปางช้างได้จัดโต๊ะแถลงข่าวภายในบริเวณโรงแสดงช้าง เมื่อถึงเวลาแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้ฉายวีดีทัศน์เกี่ยวกับความเป็นมาของปางช้างให้สื่อมวลชนได้ชมโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ต่อด้วยการฉายวีดีทัศน์ การแสดงความสามารถเป่าแคนบนหลังช้างซึ่งแสดงโดยนายไชยพงษ์ แสนดี หรือเสี่ยวินัย เจ้าของปางช้าง ใช้เวลาประมาณ 30 วินาที ในส่วนของการแถลงข่าวใช้เวลาประมาณ 45 นาที

นายไชยพงษ์ แสนดี หรือ เสี่ยวินัย เจ้าของปางช้าง กล่าวภายหลังอีกว่า ตนคลุกคลีอยู่กับช้างมาตั้งแต่เด็ก ตระกูลของตนมีอาชีพเลี้ยงช้าง เมื่อหลายปีก่อนตนมีช้างแค่เชือกเดียว และจะต้องนำออกไปรับจ้างทั่วไป ตนต้องอดทนทำมาหากินด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยความอดทนอดกลั้น และประหยัดอดออม จนถึงปัจจุบันปางของตนมีช้างทั้งหมด 51 เชือก ที่ผ่านมาปางช้างของตนได้สร้างชื่อเสียงให้กับชาวจังหวัดกาญจนบุรี มาโดยตลอด และยังสร้างรายได้กระจายไปสู่ชุมชุม ดังนั้น ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นใจคนช้างบ้าง

"ซึ่งผมทราบมาว่าเจ้าหน้าที่จะเดินทางมายึดช้างของตนทั้งหมด 19 เชือก เพื่อนำไปไว้ที่ สถาบันคชบาลฯ ซึ่งผมขอวิงวอนเจ้าหน้าที่ว่าอย่ามานำช้างของผมไปเลย เพราะหากนำช้างของผมไป ผมมีความเป็นห่วงเรื่องของสุขภาพของมัน และการเลี้ยงดูอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร มันอาจจะผอมลงได้ ผมขอวอนเจ้าหน้าที่ว่าขอให้ผมดูแลช้างเอง"

นายไชยพงษ์ ยังกล่าวยืนยันว่า "ช้างทั้ง 19 เชือกเป็นช้างบ้านไม่ใช่ช้างป่าแต่อย่างใด"

อีกด้านบริเวณห้องประชุม สภ.ไทรโยค นายเอิบ เชิงสาด ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นายครชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ร.ต.ต.ธีรโชต นุ่นสพ รอง.สว.กก.5 บก.ปทส. ด.ต.สุวัฒน์ ห้วยหงส์ทอง ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปทส.ด.ต.กฤตพจน์ กิจชัยพร ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปทส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันประชุมและทำบันทึกการรับมอบของกลางในการตรวจยึดช้างทั้ง 19 เชือก เพื่อส่งไปยังสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ

นายเอิบ เชิงสะอาด ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตนได้รับคำสั่งจากนายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ให้มาดำเนินการตามที่พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ร้องขอเพื่อให้ดำเนินการลงบันทึกการรับมอบของกลางคือช้าง 19 เชือก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ของเรากำลังดำเนินการทำบันทึกรายละเอียดอยู่ หากแล้วเสร็จจะนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ขณะเดียวกันภายในวันนี้ เจ้าหน้าที่จะเดินทางยังปางช้างไทรโยคอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบดูว่าช้างทั้ง 19 เชือกยังอยู่ที่เดิมหรือไม่ ซึ่งการเดินทางเข้าไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอหมายค้น เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบมีความกังวลว่า ปางช้างไทรโยคอาจจะมีการขนย้ายช้างทั้ง 19 ตัวออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะเขตชายแดนที่ติดต่อกับประเทศพม่า เนื่องจากระยะทางจากปางช้างถึงชายแดนมีระยะทางเพียงแค่ 20 ก.ม.เจ้าหน้าที่จึงได้ผนวกกำลังจัดชุดลาดตระเวณเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น