กาญจนบุรี - รองผบช.ก.เร่งขยายผลตรวจยึดลูกช้างอีก 2 เชือก ที่ภูเก็ต หลังพบเชื่อมโยงช้าง 19 เชือก ที่ถูกยึดที่ปางช้างไทรโยค กาญจนบุรี โดยเตรียมเดินทางไปตรวจยึดลูกช้างทั้ง 2 เชือก ในเร็วๆ นี้
วันนี้ (22 ก.พ.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.กล่าวถึงความคืบหน้าการขยายผลการสืบสวนสอบสวนจากปางช้างไทรโยค จ.กาญจนบุรี ไปตรวจยึดลูกช้างที่ จ.ภูเก็ต ว่า จากเมื่อวันที่ 15 ก.พ.55 นายสัตวแพทย์ อมรินทร์ กัลล์ประวิทธ์ ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี นายสัตวแพทย์ สามารถ ประสิทธิ์ผล และ นายไสว อินทพงศ์ ปศุสัตว์อำเภอไทรโยค ได้สรุปผลการตรวจสอบ พบช้างจำนวน 19 เชือก ที่ปางช้างไทรโยคมีลักษณะตำหนิรูปพรรณช้างไม่ตรงกับหลักฐานตั๋วรูปพรรณต้นฉบับ
ดังนั้น เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จึงได้ดำเนินการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครอง ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค และเมื่อนำข้อมูลไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ของลูกช้างที่ตรวจพบที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 3 เชือกว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งลูกช้างที่ตรวจพบที่ จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย ลูกช้างชื่อ พลายสมโชค ใบปากคอก ระบุพ่อชื่อทองดีแม่ชื่อลำดวน พลายบุญหลาย ตั๋วใบปากคอก ระบุพ่อชื่อภัสดิน แม่ชื่อแป้ง และพลายฟลุ๊ค ใบปากคอกระบุพ่อชื่อทองดี แม่ชื่อป็อบ โดยลูกช้างทั้ง 3 เชือกที่เจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้ตรวจสอบนั้นขณะนี้ยังอาศัยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต
รองผบช.ก.กล่าวต่อว่า เนื่องมาจากผลตรวจสอบของสัตว์แพทย์เมื่อวันที่ 15 ก.พ.55 ระบุว่า ช้างเพศเมีย 2 ใน 19 เชือก คือ พังป๊อบ และ พังแป้ง เป็นช้างที่อยู่ในบัญชีของกลาง จึงเป็นผลให้การขยายผลสืบสวนตรวจสอบลูกช้าง 3 เชือกที่ จ.ภูเก็ต โดยนำสถานะของพังป๊อบ และพังแป้ง ที่เป็นแม่ช้างในใบปากคอกตกอยู่ในสถานะเป็นของกลางตรวจยึดว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
ดังนั้น ลูกช้างที่ภูเก็ต 2 เชือก คือ พลายบุญหลาย และ พลายฟลุ๊ค ที่ใบปากคอกแจ้งเกิดมีการระบุว่า เป็นลูกช้างที่เกิดจากพังแป้ง และ พังป๊อบ ตามลำดับ จึงมีสถานะตกเป็นสัตว์ที่ต้องดำเนินการตรวจยึดไว้เป็นของกลางต่อไป ส่วนพลายสมโชค นั้นยังอยู่ในระหว่างการอายัดที่กำลังตรวจสอบสถานะต่อไปเช่นกัน โดยตนจะเดินทางไปตรวจยึดลูกช้างทั้ง 2 เชือกในเร็วๆ นี้ต่อไป
วันนี้ (22 ก.พ.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.กล่าวถึงความคืบหน้าการขยายผลการสืบสวนสอบสวนจากปางช้างไทรโยค จ.กาญจนบุรี ไปตรวจยึดลูกช้างที่ จ.ภูเก็ต ว่า จากเมื่อวันที่ 15 ก.พ.55 นายสัตวแพทย์ อมรินทร์ กัลล์ประวิทธ์ ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี นายสัตวแพทย์ สามารถ ประสิทธิ์ผล และ นายไสว อินทพงศ์ ปศุสัตว์อำเภอไทรโยค ได้สรุปผลการตรวจสอบ พบช้างจำนวน 19 เชือก ที่ปางช้างไทรโยคมีลักษณะตำหนิรูปพรรณช้างไม่ตรงกับหลักฐานตั๋วรูปพรรณต้นฉบับ
ดังนั้น เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จึงได้ดำเนินการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครอง ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค และเมื่อนำข้อมูลไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ของลูกช้างที่ตรวจพบที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 3 เชือกว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งลูกช้างที่ตรวจพบที่ จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย ลูกช้างชื่อ พลายสมโชค ใบปากคอก ระบุพ่อชื่อทองดีแม่ชื่อลำดวน พลายบุญหลาย ตั๋วใบปากคอก ระบุพ่อชื่อภัสดิน แม่ชื่อแป้ง และพลายฟลุ๊ค ใบปากคอกระบุพ่อชื่อทองดี แม่ชื่อป็อบ โดยลูกช้างทั้ง 3 เชือกที่เจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้ตรวจสอบนั้นขณะนี้ยังอาศัยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต
รองผบช.ก.กล่าวต่อว่า เนื่องมาจากผลตรวจสอบของสัตว์แพทย์เมื่อวันที่ 15 ก.พ.55 ระบุว่า ช้างเพศเมีย 2 ใน 19 เชือก คือ พังป๊อบ และ พังแป้ง เป็นช้างที่อยู่ในบัญชีของกลาง จึงเป็นผลให้การขยายผลสืบสวนตรวจสอบลูกช้าง 3 เชือกที่ จ.ภูเก็ต โดยนำสถานะของพังป๊อบ และพังแป้ง ที่เป็นแม่ช้างในใบปากคอกตกอยู่ในสถานะเป็นของกลางตรวจยึดว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
ดังนั้น ลูกช้างที่ภูเก็ต 2 เชือก คือ พลายบุญหลาย และ พลายฟลุ๊ค ที่ใบปากคอกแจ้งเกิดมีการระบุว่า เป็นลูกช้างที่เกิดจากพังแป้ง และ พังป๊อบ ตามลำดับ จึงมีสถานะตกเป็นสัตว์ที่ต้องดำเนินการตรวจยึดไว้เป็นของกลางต่อไป ส่วนพลายสมโชค นั้นยังอยู่ในระหว่างการอายัดที่กำลังตรวจสอบสถานะต่อไปเช่นกัน โดยตนจะเดินทางไปตรวจยึดลูกช้างทั้ง 2 เชือกในเร็วๆ นี้ต่อไป