xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เตรียมดำเนินคดี "เสี่ยวินัย" เจ้าของปางช้างไทรโยคเพิ่ม ฐานสวมตั๋วรูปพรรณ "พังโบโย้"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจ ปทส.ลงพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบตั๋วรูปพรรณพังโบโย้ ของนางชุติมา ก้องโลกา
กาญจนบุรี - ตำรวจ ปทส.เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี "เสี่ยวินัย" เจ้าของปางช้างไทรโยคเพิ่มหลังพิสูจน์พบ "สวมตั๋วรูปพรรณช้างพังโบโย้" ชัดเจน ด้านเจ้าของตั๋วตัวจริงงง 7 ปีที่ยืมไป ตามทวงคืนบ่ายเบี่ยงมาตลอด อยู่ๆ กลับได้คืนเฉย

ความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.สั่งการให้ พ.ต.ท.วรรษธร วาเกียรธนะ สว.กก.5 บก.ปทส. ร.ต.ต.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.5 บก.ปทส.และ ด.ต.สุวัฒน์ ห้วยหงส์ทอง ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปทส.และนายศิรัณ บุญสังข์ ปลัดอำเภอสังขละบุรี เดินทางไปพบนางชุติมา ก้องโลกา อายุ 54 ปี ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 7 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เจ้าของช้างพังโบโย้ อายุ 33 ปี เพื่อตรวจสอบตั๋วรูปพรรณนำไปเปรียบเทียบกับพังโบโย้ ตามที่ปางช้างไทรโยค ได้นำตั๋วใบเดียวกันมาแสดงอ้างอิงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (19 ก.พ.55) พ.ต.ท.วรรษธร วาเกียรธนะ สว.กก.5 บก.ปทส.เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) คณะของตนได้เดินทางไปถึงบ้านของนางชุติมาเวลาประมาณ 17.00 น.ตามที่ได้นัดหมายเอาไว้ เมื่อไปถึงพบนางชุติมา รอคณะของพวกตนอยู่ก่อนแล้ว โดยมีพังโบโย้ อายุ 33 ปีอยู่ด้วย มีนายไชยณรงค์ สุวรรณทิพย์ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 นายขาว ต๊ะสุ อายุ 64 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 นางชูชื่น สังขโสภา อายุ 60 ปี ทั้งหมดร่วมเป็นพยานยืนยันว่า ช้างเชือกดังกล่าวเป็นของนางชุติมา จริง และเลี้ยงมาตั้งแต่แรกคลอด

จากการตรวจสอบตั๋วรูปพรรณกับลักษณะของช้างที่ระบุไว้ที่ตั๋วใบดังกล่าวพบว่า มีลักษณะที่ตรงกัน โดยเฉพาะบริเวณเล็บหน้าขวามีตำหนิแตกเล็กน้อย จากนั้นได้นำพยานทั้งหมดไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.สังขละบุรี แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คาดไม่ถึงคือนางชุติมา ได้แจ้งกับคณะของตนว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่คณะของตนจะเดินทางมาถึงเพียง 1 วันได้มีเจ้าหน้าที่ของปางช้างไทรโยค โทรศัพท์ติดต่อมาหานายขาว ต๊ะสุ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ซึ่งเป็นญาติของนางชุติมา ว่า ให้นางชุติมา เดินทางมารับตั๋วรูปพรรณช้างคืนได้ที่ปางช้างไทรโยค หลังจากทราบนางชุติมา พร้อมกับญาติได้รีบเดินทางไปรับตั๋วรูปพรรณคืนทันที ซึ่งตนจะรีบรายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.ทราบเพื่อดำเนินการต่อไป

จากการสอบถามนางชุติมา ทราบว่า นายไชยพงษ์ หรือเสี่ยวินัย แสนดี เจ้าของปางช้างไทรโยคได้โทรศัพท์ติดต่อมาให้ตนไปรับตั๋วรูปพรรณของพังโบโย้จริง ซึ่งตนได้เดินทางไปรับตั๋วคืนมาแล้ว โดยเสี่ยวินัย ให้เหตุผลว่า ตั๋วรูปพรรณใช้ไม่ได้เก็บเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ และก่อนเดินทางกลับ เสี่ยวินัย ยังได้ควักเงินค่าน้ำมันรถให้ตนเป็นเงินจำนวนสองพันบาทด้วย

จากเหตุการณ์ดังกล่าวนางชุติมา กล่าวว่า เมื่อประมาณ 7 ปี ที่ผ่านมา เสี่ยวินัย ได้เดินทางมาพบครอบครัวของตน เพื่อจะจ้างให้ตนนำช้างไปบริการนักท่องเที่ยว โดยมีน้องชายของตนอยู่ด้วย แต่สมัยนั้นการขนย้ายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เสี่ยวินัย จึงได้ขอยืมตั๋วรูปพรรณไปก่อน แล้วค่อยขนย้ายช้างในภายหลัง ซึ่งน้องชายของตนก็ได้มอบตั๋วรูปพรรณให้กับเสียวินัย ไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานก็ยังไม่มีการติดต่อมาเพื่อขนย้ายช้าง ซึ่งตนได้เดินทางไปทวงถามและขอตั๋วรูปพรรณคืน แต่ก็ถูกเสี่ยวินัย บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนให้

จนกระทั่งวันที่ 17 ก.พ.55 เสี่ยวินัย ก็โทรศัพท์ติดต่อมาให้ตนไปรับตั๋วคืน สร้างความงุนงงให้กับตนมาก แต่ก็ดีใจเป็นอย่างมากที่ได้ตั๋วคืน ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม นางชุติมา ยังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุหน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือ จนสุดท้ายได้ตั๋วรูปพรรณพังโบโย้ กลับคืนมาในที่สุด

ด้าน พ.ต.ท.พรเทพ อินทรบ้าน สว.กก.5 บก.ปทส.กล่าวว่า หลังจากความจริงได้เปิดเผย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีกับเสี่ยวินัยเจ้าของปางช้างได้เลย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องศึกษารายละเอียดด้านกฎหมายให้ชัดเจนเสียก่อนว่าจะดำเนินคดีในข้อหาใดได้บ้าง ซึ่งพรุ่งนี้ 20 ก.พ.ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปที่ สภ.ไทรโยคเพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง

กำลังโหลดความคิดเห็น