ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำรณรงค์ฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศบรรเทาปัญหาหมอกควัน ยอมรับค่าฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้น และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา ระบุภาพถ่ายดาวเทียมไม่พบ Hot Spot ในพื้นที่ คาดหมอกควันถูกลมพัดพามาจากต่างจังหวัดอื่น และประเทศเพื่อนบ้าน ย้ำ ทุกหน่วยงานผนึกกำลังป้องกันแก้ไขปัญหาจริงจัง แม้สุขภาพประชาชนและการท่องเที่ยวยังไม่มีผลกระทบ ด้านสาธารณสุขจังหวัด ห่วงนักเรียนเข้าแถวหน้าเสาธงตอนเช้าได้รับผลกระทบในวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่บริเวณลานประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ปลอดควันพิษจากไฟป่า พร้อมปล่อยแถวขบวนรถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้ยอมรับว่าสถานการณ์มีแนวโน้มที่จะรุนแรงเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ เห็นได้จากค่าฝุ่นละองขนาดเล็ก PM10 ที่เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม กลับพบว่า แทบจะไม่มีจุดความร้อน (Hot Spot) ที่น่าจะเป็นจุดที่มีการเผาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เลย จึงคาดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ที่ฝุ่นควันน่าจะถูกลมพัดพามาจากจังหวัดอื่น หรือประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะได้มีการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาต่อไป
สำหรับการดำเนินการในการป้องแก้ไขปัญหานั้น ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศให้ปัญหาหมอกควันไฟป่าเป็นวาระของจังหวัดที่จะต้องป้องกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งที่ผ่านมาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในการรณรงค์ให้ความรู้ทำความเข้าใจกับประชาชนในการงดการเผาทุกชนิด และจะมีการเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการให้มากยิ่งขึ้นในพื้นที่ทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อป้องกันและแก้ไขให้เกิดปัญหาขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากรายงานที่ได้รับจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จนถึงเวลานี้ยังไม่พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติเพราะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน รวมทั้งพบว่าสถานการณ์หมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ที่ถึงแม้จะยังคงมีแนวโน้มรุนแรง แต่ก็ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยพบว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังคงมีการเดินทางท่องเที่ยวตามปกติ อย่างไรก็ตามถึงจะยังไม่มีผลกระทบเกิดขึ้น แต่ทางจังหวัดเชียงใหม่ก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ โดยยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องรณรงค์และดำเนินการทุกอย่างเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหานี้
ด้าน ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาหมอกควันและคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ในเวลานี้ แม้จะยังไม่รุนแรงถึงขั้นวิกฤต แต่ก็ยังความเสี่ยงที่ปัญหาจะรุนแรงขึ้นได้ ซึ่งในกรณีที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเป็นระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว แนะนำประชาชนในการป้องกันและดูแลตัวเองว่าควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกตัวอาคารหรือที่โล่ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้ป่วยโรคเรื้อรัง คนแก่ ผู้หญิงตั้งครรภ์ และเด็ก หากมีความจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
นอกจากนี้ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า มีความเป็นห่วงกลุ่มเด็กนักเรียนที่จะต้องเข้าแถวเคารพธงชาติในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน ซึ่งเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน โดยเฉพาะในวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินค่ามาตรฐาน
ทั้งนี้ แนะนำว่าหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงด้วยการเปลี่ยนเป็นเข้าแถวเคารพธงชาติในตัวอาคารแทนเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับผลกระทบ สำหรับจำนวนผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ในช่วงนี้ยอมรับว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าเป็นผลกระทบโดยตรงมาจากปัญหาหมอกควัน
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งด้วยว่า วันนี้ (24 ก.พ.) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันทึบเกือบตลอดทั้งวันต่อเนื่องกันทุกวันมาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้ 114 สูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่ควรเกิน 100 ซึ่งเป็นระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ผลการตรวจวัดช่วงเช้าวันนี้พบสูงเกินค่ามาตรฐานก่อนที่จะลดลงจนไม่เกินค่ามาตรฐานในช่วงบ่าย