กกต.เชียงใหม่ ชูผลสำเร็จ “สุเทพโมเดล”

เชียงใหม่ - กกต.เชียงใหม่ ชี้แจงความสำเร็จ “สุเทพโมเดล” รูปแบบการเลือกตั้งท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสุเทพ และนายกเทศมนตรี ยอมรับการซื้อเสียงยังคงมีอยู่ แต่คนใช้เงินซื้อเสียงมากไม่ได้รับการเลือกตั้ง และเตรียมเช็กบิลคนผิดต่อ

วันนี้ (22 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นายสุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในการปิดโครงการ “สุเทพโมเดล” รูปแบบการเลือกตั้งท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพ ว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ทาง กกต.เชียงใหม่ ได้จัดทำเป็นแนวคิดในการที่จะทำให้การเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม และการจัดการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ

โดยใช้การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ ที่การเลือกตั้งในช่วงต้นเดือนมกราคม 55 ที่ผ่านมา เป็นต้นแบบในการดำเนินโครงการ โดยมีการระดมบุคลากรและหน่วยงานทั้ง กกต.ท้องถิ่น สถานศึกษา ฯลฯ ประชุมหารือวางกรอบในการดำเนินการ “สุเทพโมเดล” ซึ่งประกอบด้วย ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเลือกตั้ง การรักษาความสุจริตเที่ยงธรรม และการมีส่วนร่วมของหน่วยงานประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากการนำเอา “สุเทพโมเดล” มาใช้ในการจัดการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสุเทพ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยอมรับว่า ยังคงมีการใช้เงินในการหาเสียงเลือกตั้งของเทศบาลตำบลสุเทพอยู่ เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งนี้มีการแข่งขันสูงมาก และมีผู้ลงสมัครหลายคนหลายกลุ่ม

ซึ่งในเรื่องนี้ทาง กกต.ยอมรับว่า ทาง กกต.นั้น สามารถป้องกันการใช้เงินซื้อเสียงในการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะยังติดขัดถึงข้อจำกัดทางกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของ กกต.ในการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่อย่างไรก็ตาม ความพึงพอใจในการนำ “สุเทพโมเดล” มาใช้ ก็คือ การที่มีประชาชนมาลงคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้น และมีบัตรเสียน้อยลงและจำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนก็ลดลงจากการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา และคนที่ใช้เงินในการซื้อเสียงในการเลือกตั้งมากไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา

นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า หลังจากการเลือกตั้งของเทศบาลตำบลสุเทพ และมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปแล้ว ปรากฏว่า ในขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมายัง กกต.แล้ว 6 เรื่อง โดยทาง กกต.จะได้สอบสวนเรื่องร้องเรียนทั้งหมด ซึ่งยอมรับว่าอาจจะมีผู้สมัครหลายคนในการลงสมัครครั้งนี้ที่จะต้องได้รับโทษทางคดีอาญาในการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ถ้าพบว่ามีหลักฐานในการกระทำผิดที่ชัดเจน

พร้อมบอกว่า แม้แนวทางของ “สุเทพโมเดล” ในการป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียงจะทำได้ในระดับหนึ่ง แต่มาตรการการเช็กบิลภายหลังที่พบว่ามีหลักฐานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น ทาง กกต.จะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น