“กกต.” มอบนโยบายเลือกนายก อบจ.ทั่วประเทศ วอน จนท.รัฐยึดหลักเป็นกลางอย่าเอียงตามคำสั่งอดีตนายก อบจ. ย้ำอย่าให้มีรายชื่อตกหล่น ชื่อผีโผล่ใช้สิทธิ ระบุการเมืองระดับชาติจุ้นท้องถิ่นไม่ผิด กม. เตรียมประสาน “ตร.-กองทัพ-นายกฯ” คุมเข้มเลือกตั้งดุ ปลุกคนใช้สิทธิหวังให้ท่วมคะแนนซื้อเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 ก.พ. นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวมอบนโยบายในการประชุมซักซ้อมเตรียมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนให้แก่จังหวัด (อบจ.) และสมาชิก อบจ.ที่ครบวาระในปี 2555 ในจำนวน 76 จังหวัด โดยมีประธาน กกต.จว. ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กต.จว.) ปลัด อบจ.ทุกจังหวัด และผู้บริหารจากสำนักงาน กกต.จำนวน 308 คน เข้าร่วมประชุมตอนหนึ่งว่า นายก อบจ.และสมาชิกอบจ.มีความสำคัญหมดทุกจังหวัด ยกเว้น กทม. อีกทั้งบางจังหวัดก็ลาออกก่อนทำให้ต้องมีเลือกตั้งเพิ่มขึ้น และจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งจากเทศบาลตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ครบวาระทั้งหมด 3,118 แห่ง
“ยืนยันว่า กกต.จะจัดการเลือกตั้งโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เรื่องความเป็นกลางนอกจากบัญญัติในกฎหมาย หากเจ้าพนักงานของรัฐทำอะไรเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ก็จะมีโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และอาญาด้วย ซึ่งมติ ครม.ก็กำหนดอยู่แล้วว่าข้าราชการต้องตัวเป็นกลาง การฝ่าฝืนมติ ครม.ก็ผิดวินัยร้ายแรง กกต.เข้าใจความกังวลปลัด อบจ. และปลัดเทศบาลก็บอกเองไม่อยากเป็น ผอ.ท้องถิ่น แต่บทบัญญัติกฎหมายเป็นความจำเป็นขอให้ยึดหลักนี้สุจริตเที่ยงธรรม เพราะเป็นเกราะคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ และมี กกต.จว.เป็นเกราะกำบังให้ท่านในการปฏิบัติหน้าที่ หากอดีตนายก อบจ.ทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็อาจชี้แจงได้ว่า กกต.กำชับมา เพราะเลือกตั้งท้องถิ่นหากทำอะไรไม่ถูก กกต.จว.จะไม่ปล่อยไว้”
นายประพันธ์กล่าวว่า ที่มีการเสนอแก้ไขกฎหมาย คนที่จัดเลือกตั้งได้ดี คือ ปลัด อบจ. ปลัดเทศบาล เพราะเอาคนอื่นมาจะจ่ายงบประมาณไม่สะดวก สำหรับเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ.หากติดตามสื่อต่างๆจะเห็นว่าการเมืองระดับชาติลงการเลือกตั้งท้องถิ่น ครั้งนี้ปรากฏในสื่อชัดเจน เป็นระดับชาติลงเล่นด้วยเพื่อวางฐานคะแนนท้องถิ่น เพราะตำแหน่งนายกอบจ.มีความสำคัญ หากเป็นนายก อบจ.การทำการเมืองในพื้นที่สะดวก เมื่อมีงานก็จะมีการเชิญนายกอบจ.ไปร่วมงานต่างๆ ได้ ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นนักการเมืองระดับชาติสามารถลงไปช่วยหาเสียงได้ กฎหมายไม่ถือเป็นความผิด ทั้งนี้ไม่อยากให้เลือกตั้งท้องถิ่นมีการประทุษร้าย เพราะหากมีการประทุษร้ายก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย จึงอยากให้ช่วยดูในส่วนนี้ด้วย
นายประพันธ์กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองทัพไทย ฝ่ายปกครอง ทุกหน่วยงานยินดีจะช่วยกกต.จัดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ และประธานกกต.มีหนังสือถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และ ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.กอ.รมน.) คือนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความช่วยเหลือดูแลความสงบเรียบร้อยเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย แต่ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้ส่วนกลางสั่ง สามารถเชิญประชุมผู้บังคับการ ผู้กำกับ หรือเชิญฝ่ายปกครองมาหารือทำอย่างไรให้เลือกตั้ง อบจ.เป็นไปโดยความเรียบร้อย อีกทั้งเรื่องร้องคัดค้านต่างๆในการเลือกตั้งเคยพูดกับ กกต.จว.และ ผอ.กต.จว.ไปแล้วที่พูดเพราะปีนี้เลือกตั้งท้องถิ่น 3,118 แห่ง ถ้าเลือกตั้งท้องถิ่นมีเรื่องร้องเรียนมาก อย่างเช่น จ.บุรีรัมย์ ที่มี 4 เรื่อง หากมีเยอะ 3,118 แห่งอาจมีสำนวนร้องคัดค้านเป็น 1 หมื่นเรื่อง ซึ่งอาจเกินขีดความสามารถทำอย่างไรให้ลดเรื่องร้องเรียนลงได้
“เลือกตั้ง อบจ.ทั่วพื้นที่ในจังหวัด แต่ใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยมาก บางแห่งมาใช้สิทธิ 20% จึงอยากช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นความสำคัญให้มาใช้สิทธิของท่านให้มากกว่า 50% มากเท่าไรยิ่งดี ผมไปลงพื้นที่เมื่อไรก็ไปลุ้นทุกที บางแห่งมีงบกว่า 1 พันล้านบาท ตามข่าวเป็น ส.ส.อยากสมัครนายก อบจ.ก็มี การที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิมากจะทำให้การซื้อสิทธิขายเสียงลดความสำคัญลงไป ถ้าคนใช้สิทธิมากคนซื้อเสียงไม่ชนะเพราะผู้มีสิทธิท่วมท้นซื้อได้ก็ไม่กี่พันคะแนน”
นายประพันธ์กล่าวว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้จะมีการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งขอให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) นับคะแนนให้ดีด้วยหากไปขานบัตรดีเป็นบัตรเสียอาจมีปัญหาได้ ขอให้ กกต.จว.ดูเรื่องนี้หากใครมีปัญหาก็ไม่ต้องตั้งเป็น กปน. อีกทั้งเรื่องการทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตกหล่น ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็สั่งให้เลือกตั้งใหม่กรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งตกหล่น 358 คน ซึ่งมีผลต่อการได้รับเลือกตั้งที่แพ้ชนะกัน 312 เสียง ทำให้ศาลต้องสั่งเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น ขอดูเรื่องบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ด้วย ซึ่งตนได้อ่านข่าวกรณีปรากฏข่าวสหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตโผล่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1.5 ล้านกว่าชื่อ ซึ่งหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าชื่อศพโผล่มีสิทธิเลือกตั้ง 1.5 ล้านชื่อ ดังนั้นของเราก็อย่าให้เกิดปัญหานี้เกิดขึ้น