ตราด - วัวพ่อแม่ลูกออกหากินหญ้าข้างถนน ระหว่างข้ามถนนลูกวัวถูกรถชนบาดเจ็บ ขาหัก รถเสียหายหนัก แต่ไม่มีใครแสดงเป็นเจ้าของ ผู้เสียหายนำลูกวัวขายโรงฆ่าสัตว์นำเงินไปซ่อมรถยนต์
วันนี้ (16 ก.พ.) บนถนนสายสุขุมวิท ขาเข้าตัวเมืองตราด หน้าบริเวณใกล้เคียงบริษัท ไทยประกันชีวิต ร.ต.ท.วุฒิพงษ์ ตระกูลวิรัตน์ตันติ ร้อยเวร สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยตราด
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงลูกวัวเพศเมีย อายุประมาณ 5-6 เดือน นอนล้มอยู่สภาพขาซ้ายหลังหัก เลือดไหลออกจากปากและร้องด้วยความเจ็บปวด และพยายามลุกขึ้นหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้ ท่ามกลางประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาและลุ้นให้ลูกวัวตัวนี้ลุกขึ้นให้ได้ ซึ่งหลายคนได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสงสารลูกวัวตัวนี้
เมื่อสอบถามผู้ที่อยู่ในระแวงที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ลูกวัวเพศเมียตัวนี้ถูกรถยนต์ชนจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากเดินออมาจากพร้อมกับพ่อ แม่ ลูก เพื่ออกมากินหญ้าบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเป็นประจำเกือบทุกคืน และเคยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยตราดมาแล้ว 3 ครั้ง เพื่อต้อนวัวทั้ง 3 ตัวเข้าไปในป่าที่ห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร
จนกระทั่งในวันนี้วัวพ่อ แม่ ลูกยังคงออกมาหากินหญ้าเหมือนเช่นเคยระหว่างที่วัวทั้ง 3 ตัวข้ามถนน ได้มีรถยนต์เก๋งที่ขับเข้าตัวเมืองตราด ที่ไม่ทันระวังชนลูกวัวเพศเมียชนล้มทั้งยืน ส่วนพ่อวัวและแม่วัวได้เดินหนีหายเข้าไปในป่า
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ มุกดาสนิท อายุ 35 ปี เจ้าของรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน กข 5196 ตราด ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองกำลังขับรถยนต์กลับบ้านที่บ้านเนินตาแมว ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด มาด้วยความเร็วเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนมองไม่เห็นวัวตัวดังกล่าวและได้พุ่งชนลูกวัวอย่างแรง ทำให้ด้านหน้ารถพังยับเยิน และหม้อน้ำแตก ขณะที่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สำหรับลูกวัวเพศเมียตัวนี้ หลังจากเกิดเหตุยังไม่มีผู้ใดแสดงตัวเข้ามาเป็นเจ้าของวัวตัวนี้ นายพงษ์ศักดิ์จึงนำลูกวัวตัวนี้ไปขายต่อให้กับโรงฆ่าสัตว์เพื่อนำเงินที่ขายได้มาซ่อมรถยนต์ของตนเอง ซึ่งคาดว่าจะได้ราคาจะลูกวัวตัวนี้ไม่เกิน 4,000 บาท ขณะที่ค่าซ่อมรถยนต์อยู่ประมาณ 40,000 บาท เนื่องจากอะไหล่รถยนต์ต้องสั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ