ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “เพรียวพันธ์” ระบุ ทราบแล้วเหตุระเบิดสุขุมวิท 71 เผย ผู้ต้องสงสัยพกระเบิดติดตัว ก่อนปาแท็กซี่พัง-ปาตำรวจสายตรวจ แต่โดนตัวเองขาขาด ไม่ยืนยันคนร้ายใช่กลุ่มตะวันออกกลาง-เกี่ยวข้องแผนวินาศกรรม ระบุ เพียงเจ้าหน้าที่ดูแลเต็มที่-เตรียมตรวจสอบเข้มหาสาเหตุ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดในซอยสุขุมวิท 71 ระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 31-34 พื้นที่ความรับผิดชอบของ สน.คลองตัน ว่า ในเบื้องต้นทราบว่า มีผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 3 ราย ซึ่งได้พกระเบิดติดตัวไว้ในเป้สะพายหลังเป็นผู้ก่อเหตุ โดยผู้ต้องสงสัยพยายามเรียกรถแท็กซี่ แต่เมื่อแท็กซี่ไม่ยอมรับผู้ต้องสงสัยได้ใช้วัตถุระเบิดขว้างใส่รถแท็กซี่ จนได้รับความเสียหายก่อนจะหลบหนี
จากนั้นผู้ต้องสงสัยได้พบกับสายตรวจของ สน.คลองตัน ที่ผ่านมาประสบเหตุ จึงพยายามจะขว้างวัตถุระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ แต่วัตถุระเบิดเกิดระเบิดขึ้นก่อน ทำให้หนึ่งในผู้ต้องสงสัยได้รับบาดเจ็บขาขาด โดยสถานการณ์ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์และสืบสวนหาสาเหตุของกรณีดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ปฏิเสธที่จะระบุว่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นชาวตะวันออกกลางตามที่ผู้สื่อข่าวสอบถามหรือไม่ โดยระบุเพียงว่า ตนได้รับทราบรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ จะเร่งเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการวางแผนก่อวินาศกรรมหรือไม่ แต่กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตรวจสอบดูแลในเรื่องดังกล่าวอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด โดยเฉพาะนับตั้งแต่สืบทราบว่ามีการวางแผนการก่อวินาศกรรมในกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าตรวจสอบภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31-35 ว่า จากการตรวจสอบพบคนร้ายขว้างระเบิดใน 3 จุด คือที่บริเวณบ้านเลขที่ 66 ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 และใส่รถแท็กซี่ภายใน ซอยปรีดีพนมยงค์ 31 และบริเวณหน้าโรงเรียนเกษมวิทยา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 4 ราย คนร้ายอีก 1 ราย เบื้องต้นพยานในที่เกิดเหตุให้การว่าเห็นชาวต่างชาติรูปร่างคล้ายชาวตะวันออกกลาง เดินออกมาจากบ้านเช้าเลขที่ 66 จำนวน 3 ราย โดยเป็นคนร้าย 1 ราย ได้และอีก 2 ราย อยู่ระหว่างการหลบหนี เบื้องต้นได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจสันติบาล เร่งติดตามจับกุมคนร้ายแล้ว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะไปก่อเหตุที่อื่นอีก
ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้ ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยระบุว่า ทางตำรวจสันติบาลไม่ได้มีการรายงานทางด้านการข่าวว่าจะมีการก่อเหตุลักษณะนี้ในวันวาเลนไทน์แต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นชนิดลูกเกลี้ยง ยังไม่ทราบชนิด ซึ่งต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางเข้าตรวจสอบอีกครั้ง
