นายกฯ ลงพื้นที่บึงบอระเพ็ด จุดสุดท้ายทัวร์สร้างสุขของวัน จ่อจัดทำระบบส่งน้ำน่านเข้า ก่อนลงเรือสำรวจฝายน้ำล้น, เกาะวัด - ยังไม่สรุปบึ้ม 3 จุดโยงมะกันเตือน วอนชาวบ้านอย่าตกใจ เผย จับคนร้ายได้แล้ว ไม่ชัดสัญชาติไหน
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่ จ.นครสวรรค์ เมื่อเวลา 16.45 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางมายังจุดสุดท้ายในการทัวร์ลุ่มน้ำวันที่ 2 โดยได้ลงพื้นที่บึงบอระเพ็ด เพื่อติดตามในการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำโครงการบึงบอระเพ็ด ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือตอนล่าง โดยจะมีการจัดทำระบบส่งน้ำจากแม่น้ำน่าน-บึงบอระเพ็ด โดยเน้นการสร้างสถานีสูบน้ำที่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กลอดใต้ทางหลวง และปรับปรุงคลองวังนาให้สามารถผันน้ำได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และคณะ ยังได้ลงเรือสำรวจพื้นที่บึงบอระเพ็ด โดยลงที่ท่าเรือ อบจ.นครสวรรค์ เพื่อสำรวจพื้นที่ฝายน้ำล้น แนวฝายคลองบางปอง ซึ่งจะเป็นจุดแรก ขณะที่จุดที่ 2 จะไปดูที่เกาะวัด ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ขุดลอกพื้นดินบางส่วน ทั้งนี้ โครงการบึงบอระเพ็ด เป็นแผนปฏิบัติงานขุดลอกบึงบ่อระเพ็ดในปีงบประมาณ 2554 ในส่วนของ 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่บ้านบึงบ่อระเพ็ด หมู่บ้านท่าดินแดง ต.แขวงใหม่ อ.เมือง และหมู่บ้านคลองกำนัน ต.ทับกิต อ.ชุมแสง ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 132,737 ไร่ เป็นพื้นที่น้ำประมาณ 90,000 ไร่ และระดับน้ำเฉลี่ย 1.50 ม.
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ 3 จุด ว่า เกี่ยวข้องกับการแจ้งเตือนก่อการร้ายก่อนหน้านี้หรือไม่ ว่า อย่าเพิ่งสรุปขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้ทำงานในเบื้องต้นก่อน และขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตกใจ เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้จับคนร้ายได้แล้ว ซึ่งต้องสืบสวนกันต่อไป และเป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งยืนยันว่า ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายไทย เมื่อถามคนร้ายเป็นคนชาติใด นายกฯ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวแต่เพียงว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ต้องรอสรุปอีกครั้ง
ด้านนายแพทย์วุฒิชัย บุษราคัมวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้รับตัวผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ซอยปรีดีพนมยงค์ ทั้งสิ้น 4 ราย ชาย 3 ราย หญิง 1 ราย จากผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทั้งสิ้น 5 ราย โดยผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลรับไว้นั้นเป็นสัญชาติไทยทั้งหมด ส่วนอีก 1 ราย ที่ส่งต่อให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นั้น เป็นแขกขาว ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล มีอาการสาหัส ขาขาดทั้ง 2 ข้าง
ขณะที่อีก 4 รายที่โรงพยาบาลรับไว้นั้น ทราบชื่อ คือ นายอภิชาติ คำลือ อายุ 33 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดฝังที่เข่าขวา นายกังวล หอประสาททอง อายุ 80 ปี มีสะเก็ดตามตัว ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน ส่วนอีก 2 ราย คือ นางจุฑาทิพย์ สัจจะดำรง อายุ 62 ปี อาการหูอื้อ และนายขรรค์ชัย บุญสูงเนิน อายุ 32 ปี อาการหูอื้อ กลับบ้านได้แล้ว
มีรายงานแจ้งอีกว่า หลังเหตุระเบิดแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบ้านพัก เลขที่ 66 ซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ซึ่งเป็นจุดแรกที่เกิดเหตุ มีการพบระเบิดแสวงเครื่องพร้อมต่อวงจรเรียบร้อยถึง 2 ลูกด้วยกัน เจ้าหน้าที่ขึ
ทำการเก็บกู้วัตถุระเบิดดังกล่าว
ขณะที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงสาเหตุระเบิดครั้งนี้ ว่า เหตุดังกล่าวต้องตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นทราบว่า ระเบิดทั้งหมดเชื่อมโยงกัน ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บไม่ใช่คนไทย ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นก่อการร้ายที่สหรัฐอเมริกาเตือนหรือไม่ เบื้องต้นสั่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจสันติบาล เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยด่วน
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่มีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายชาวเลบานอน ได้เร่งสืบทางลึกมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้มากนัก แต่ก็ต้องจับตาชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยเป็นพิเศษ