xs
xsm
sm
md
lg

“วินัย” เชื่อเกิดความผิดพลาดก่อนบึ้มบ้านเช่า ชี้เป็นระเบิดแสวงเครื่องใช้วิทยุอัดซีโฟร์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

บ้านที่เกิดเหตุ
ผบ.ตร.ชี้ระเบิดกลางสุขุมวิท 71 ไม่น่าเกี่ยวข้อง “อาทริส” เป้าหมายน่าเป็นบุคคล ยังไม่เรียกเจ้าของบ้านเช่าที่เกิดเหตุสอบ ขณะที่ ผบช.น.คาดน่าจะเกิดความผิดพลาดจึงระเบิดก่อน พบระเบิดแต่ละลูกเป็นซีโฟร์อัดในวิทยุใช้วิธีดึงสลักก่อนปา เชื่อมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 3 คน ด้านเจ้าหน้าที่อีโอดีพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบโดยใช้วิทยุทรานซิสเตอร์อัดสารซีโฟร์

วันนี้ (14 ก.พ.) เวลา 20.00 น. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ได้เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุบริเวณบ้านเดี่ยวเลขที่ 66 ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 แขวงเขตวัฒนา กทม. ซึ่งเป็นบ้านเช่าที่ชาวอิหร่านทั้ง 3 คนเช่าอยู่และเกิดระเบิดขึ้น โดยก่อนเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ยังไม่สามารถให้ปากคำในรายละเอียดใดๆ ได้ เนื่องจากพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับกลุ่มนายอาทริส ฮุสเซน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ในข้อหามีสารปรกอบวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองหรือไม่นั้นยังไม่รู้ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระมัดระวังเหตุมาตลอด ขอตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อน ส่วนเป้าหมายคืออะไร ตอนนี้ยังให้ข้อมูลอะไรยังไม่ได้มากนัก

ภายหลังเข้าตรวจสอบบ้านเช่าจุดเกิดเหตุ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า บ้านเช่าหลังนี้มีผู้เช่าอยู่ 3 คน เจ้าของบ้านเป็นคนไทย ซึ่งยังไม่เรียกเจ้าของบ้านมาสอบปากคำ เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น โดยเชื่อว่าในละแวกใกล้เคียงไม่น่าจะมีระเบิดหลงเหลืออยู่ เป้าหมายน่าจะเป็นบุคคลเพราะเป็นระเบิดชนิดขว้าง ซึ่งนายอาทริสไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ส่วนจุดประสงค์ขอตรวจสอบก่อนเพราะคนร้ายที่จับกุมได้ยังให้ปากคำไม่ได้ ส่วนผู้ต้องหาที่บาดเจ็บขาขาดตรวจสอบแล้วไม่มีชื่อในแบล็คลิส

ด้าน พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบบ้านเช่าหลังดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพจากวงจรปิดพบชาย 3 คน โดยคนแรกเป็นชายสวมเสื้อสีดำที่เอาระเบิดไปปารถแท็กซี่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนชายสวมเสื้อสีฟ้ากับเสื้อสีขาวหลบหนีไป โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายเสื้อสีฟ้าได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งกำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ

จากการตรวจสอบบ้านเช่าที่เกิดเหตุระเบิด พบรอยเลือดของ 1 ใน 3 คนนี้ ซึ่งได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอยู่ พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังสถานพยาบาลทุกแห่งเพื่อตรวจสอบชายชาวตะวันออกกลางว่ามีใครได้รับบาดเจ็บและไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใด หากใครพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ซึ่งน่าจะเกิดการผิดพลาดจึงระเบิดก่อน และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบแต่ละลูกเป็นซีโฟร์อัดในวิทยุเครื่องละ 2-3 ปอนด์ โดยใช้วิธีดึงสลักก่อนปา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่น่าจะใช้บ้านเช่าหลังดังกล่าวประกอบระเบิด ซึ่งน่าจะประกอบมาจากที่อื่น ทั้งนี้ยังเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 3 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ได้ตรวจสอบวัตถุระเบิดแล้วพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ประกอบโดยใช้วิทยุทรานซิสเตอร์อัดสารซีโฟร์
วัตถุระเบิดที่ตรวจพบ

ผู้ต้องสงสัย


กำลังโหลดความคิดเห็น