นครปฐม - รองผบช.ภ.7 นำทีมสืบสวนลงพื้นที่สำรวจที่เกิดเหตุฆ่าสาวเคเบิลนครปฐมอีกครั้ง ตีวงแคบเรื่องชู้สาว และปมขัดแย้งส่วนตัว ล่าสุด ร้านวัสดุแจ้งมีสาวห้าวหาซื้อน้ำมันก๊าดก่อนมีเหตุ ส่วนปมแย่งตำแหน่งในสำนักงานมีทะเลาะกันจริง แต่ไม่ถึงนำไปสู่การสังหาร ด้านพ่อเมืองเจดีย์ใหญ่สั่งการให้ตำรวจพลิกแผ่นดินล่าคนร้ายเพื่อดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.ณิชมล นิ่มเดช หรือ น้องรถตู้ อายุ 23 ปี พนักงานฝึกหัดผู้สื่อข่าวเคเบิลทีวีนครปฐม เสียชีวิตในห้องเช่าเลขที่ 71/169 หมู่ 3 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยมีสภาพศพถูกเผาร่างกายนอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟาภายในห้อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นถูกสังหารในเรื่องชู้สาว และเรื่องส่วนตัว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี และมีชายหนุ่มหลายคนและสาวทอมมาติดพันอยู่ก่อนเสียชีวิต
ล่าสุด พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบช.ภ.7 ได้นำทีมคลี่คลายคดีเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ โดยได้ดูลักษณะของการลุกไหม้ของเพลิงบนโซฟา รวมถึงเสื้อผ้าภายในห้อง ขวด และแก้วเบียร์ต่างๆ และลายนิ้วมือเพื่อนำไปสู่การสังหาร โดยพุ่งเน้นไปในเรื่องชู้สาว และการขัดแย้งในเรื่องส่วนตัว และคนที่พบเพลิงไหม้ห้องคนแรก ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัยหลายอย่าง โดยต้องสอบปากคำอีกครั้งเพื่อให้ความกระจ่าง
โดยประเด็นในการสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัยหลายปาก ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนของผู้ตาย และพนักงานของเคเบิลทีวีนครปฐม ที่ใกล้ชิดกับผู้ตาย ซึ่งหนึ่งในนั้นได้เข้าไปในห้องเช่าของผู้ตายในวันที่เกิดเหตุ แต่ได้ปฏิเสธพร้อมแจ้งว่า มีพยานว่าได้พบตนอยู่ต่างพื้นที่และบาดแผล เช่น รอยขีดข่วนก็พร้อมให้ตรวจดีเอ็นเอ ว่า ได้ทะเลาะกับแฟนสาวหลังทราบข่าวว่าไปมีสัมพันธ์กับผู้ตาย แต่ชายที่ไปในห้องช่วงเช้าและสาวทอม ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร
ส่วนประเด็นที่ขัดแย้งกันในสำนักงานเคเบิลทีวีนครปฐม ได้มีการตรวจสอบพบ น.ส.ณิชมล นิ่มเดช หรือ น้องรถตู้ ได้มีการขัดแย้งภายในจริง แต่คู่กรณีได้ลาออกไปก่อนหน้านี้แล้ว และได้เรียกมาสอบปากคำไปแล้ว แต่ทางเจ้าตัวยืนยันว่า แม้จะขัดแย้งกับผู้ตายจนตนเองต้องลาออกไป แต่ก็ไม่เป็นเหตุถึงให้นำไปสู่การบุกไปฆ่าถึงห้องพัก เพราะเป็นเรื่องของผู้หญิงที่ขัดแย้งในเรื่องงานปกติเหมือนทั่วไป
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการค้าวัสดุก่อสร้างในตัวเมืองนครปฐม ว่า ในวันเกิดเหตุได้มีสาวทอมได้เข้ามาขอซื้อน้ำมันก๊าด ซึ่งได้อ่านข่าวพบว่าในที่เกิดเหตุนั้น มีการได้กลิ่นของน้ำมันก๊าด ซึ่งปกติน้ำมันก๊าดจะไม่ค่อยมีคนมาหาซื้อไปใช้งาน ซึ่งจะแจ้งเบาะแสกับตำรวจต่อไปเพื่อเกิดประโยชน์กับคดีในทางสืบสวน
จากข้อมูลต่างๆ น.ส.ณิชมล นิ่มเดช หรือ น้องรถตู้ ผู้ตายจะมีการฝึกงานไปทำข่าวนอกสถานที่กับผู้สื่อข่าวรุ่นพี่ และช่างภาพหลายคน เพื่อให้คุ้นเคยกับการทำงาน แต่จะให้ความคุ้นเคยไปดื่มสังสรรค์กับฝ่ายช่างมากกว่าฝ่ายข่าว ปกติการขัดแย้งเพื่อแย่งตำแหน่งงานยิ่งไม่ชัดเจน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้ตัดทิ้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้พุ่งเป้าไปที่เพื่อนข้างห้องที่มาพบเพลิงไหม้คนแรก เนื่องจากหลังเกิดเหตุได้หายหน้าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวไปยังบ้านพัก เพื่อสอบถามข้อมูล แต่ได้ให้การว่ากลัวผี จึงได้ย้ายกลับมาที่บ้านแม่
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบพิรุธ เนื่องจากเตรียมกระเป๋าเดินทางคล้ายจะเดินทางไปหลายวัน และยังมีคดีติดตัวมาหลายคดีด้วย และยังรู้พฤติกรรมของผู้ตายเป็นอย่างดี ว่า ใครเข้าออกไปหามาสู่ในห้องเช่าบ้าง แสดงว่า มีการติดตามพฤติกรรมของผู้ตายตลอดเวลา
ส่วนศพ น.ส.ณิชมล นิ่มเดช หรือ น้องรถตู้ ทางญาติได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านพัก ที่ตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมืองนครปฐม แล้ว
ด้าน นายนิมิต จันทน์วิมล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และหากเป็นการฆาตกรรมจริงตามที่เป็นข่าวคงต้องเร่งหาผู้กระทำความผิดมาโดยเร็วที่สุด และรับรองว่าจะไม่มีแพะรับบาปอย่างแน่นอน
ในส่วนของสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมได้มอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าทำศพให้กับ นายวีรวุฒิ นิ่มเดช และ นางสุนีย์ นิ่มเดช ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของผู้เสียชีวิตจำนวน 40,000 บาท