รองผบช.ก.ค้น “แคมป์ช้างทวีชัย” ยึดไม้แปรรูป-นกกรงหัวจุก-หัวกระทิงไว้ตรวจสอบ

กาญจนบุรี - รองผบช.ก.นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหาสิ่งผลกฎหมายใน “แคมป์ช้างทวีชัย” พร้อมตรวจเข้มช้าง 37 เชือก เปรียบเทียบตั๋วรูปพรรณ เบื้องต้นยึดไม้แปรรูปจำนวนมาก พร้อมนกกรงหัวจุก หัวกระทิงไว้ตรวจสอบ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 ก.พ.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรงค์เดช กมลบุตร รองผกก.5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พ.ต.ท.พรเทพ จันทรบ้าน สว.กก.5 บก.ปทส.นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายเอิบ เชิงสะอาด ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ สัตวแพทย์หญิง ทิพาพรรณ ปานลักษณ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี รวมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย ทั้งหมดเดินทางไปที่บริเวณแคมป์ช้างทวีชัย เลขที่ 14/1 หมู่ 6 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อสำรวจตั๋วรูปพรรณและตรวจไมโครชิพของช้างที่มีทั้งหมด 37 เชือก

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึง นายทวี หรือ บังตุ๊ หลงสกุล อายุ 70 ปี เจ้าของแคมป์ช้างให้การต้อนรับ เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี เลขที่ มค 65/2555 ลงวันที่ 2 ก.พ.2555 มาแสดงก่อนเข้าตรวจค้น จากนั้น นายอับดุลเลาะห์ จุนเดิน ได้เป็นผู้นำตรวจสอบช้างทุกเชือก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบบริเวณนานกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย

ในระหว่างการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้พบไม้ท่อนที่ไม่มีการตีตราของเจ้าหน้าที่ป่าไม้อยู่เป็นจำนวนมากพอสมควร ทั้งไม้สัก ไม้แดง ไม้กระยาเลยและยังมีไม้แปรรูปอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกตรวจยึดเอาไว้เพื่อนำไปตรวจสอบถึงที่มาของไม้จำนวนดังกล่าว นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบนกชนิดต่างๆ เช่น นกปรอดหัวจุก และลิง รวมทั้งซากหัวกระทิง ที่แคมป์ช้างติดผนังเอาไว้โชว์นักท่องเที่ยวอีกด้วย

ต่อมา พล.ต.ต.ศรีวราห์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตั๋วรูปพรรณช้างทั้งหมดที่มีอย่างละเอียด ก่อนที่จะมอบหมายให้คณะสัตวแพทย์นำเครื่องแสกนรหัสไมโครชิพไปตรวจสอบ พร้อมทั้งเจาะเลือดและนำขนของช้างไปตรวจดีเอ็นเอ โดยขั้นตอนทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนเหมือนการตรวจสอบปางช้างไทรโยค ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด