กาญจนบุรี - รองผบช.ก.ขีดเส้นตาย ปางช้างไทรโยค นำหลักฐานตั๋วรูปพรรณช้างอีก 7 เชือก ที่ยังไม่สามารถนำตั๋วรูปพรรณมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ให้นำมาแสดงภายในวันที่ 15 ก.พ.นี้
จากกรณี นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผวจ.กาญจนบุรี และ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. ลงพื้นที่ตรวจสอบตั๋วรูปพรรณช้างที่ปางช้างไทรโยค เลขที่ 30/2 หมู่ 3 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และพบพิรุธ ต่อมาวันที่ 31 ม.ค.55 พล.ต.ต.ศรีวราห์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรโยค หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ปศุสัตว์อำเภอไทรโยค สาธารณสุขอำเภอไทรโยค และฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ร่วมเดินทางลงพื้นที่ปางช้างไทรโยค เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในการตรวจสอบตั๋วรูปพรรณและตรวจดีเอ็นเอ ช้างจำนวน 51 เชือก
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ก.พ.) คณะทำงานทั้งหมดได้เดินทางมาร่วมประชุมหารือที่ห้องประชุม สภ.ไทรโยค โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เพราะมีปัญหาหลายประการที่ต้องตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารรูปพรรณช้างที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และมีการสอบถามฝ่ายปกครองเกี่ยวกับกระบวนการออกตั๋วรูปพรรณ รวมทั้งให้ช่วยประสานหาข้อมูลเกี่ยวกับการออกตั๋วช้างทุกตัวเพื่อให้เกิดความถูกต้องในการดำเนินการสอบสวน เนื่องจากมีช้างที่มีรูปพรรณไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในตั๋วอีกหลายเชือก
พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.เปิดเผยว่า จากการที่เข้าไปที่เกิดเหตุปางช้างไทรโยคอีกครั้ง เราได้ตรวจสอบข้อมูลตั๋วรูปพรรณช้างจำนวน 51 เชือกและเจาะเอาเลือดช้างและนำขนช้างของแต่ละเชือกไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์สายพันธุ์ของช้าง โดยเฉพาะการตรวจดีเอ็นเอ ของแม่และลูกว่าตรงกันหรือไม่
“การตรวจดีเอ็นเอนั้น คาดว่า จะรู้ผลภายใน 2 อาทิตย์ ช้างทั้ง 51 เชือกพบติดไมโครชิป 50 เชือก ตรวจไม่พบไมโครชิปจำนวน 1 เชือก โดยเจ้าหน้าที่ของปางช้างไทรโยค ให้เหตุผลกับเราว่า สาเหตุที่ตรวจไม่พบเป็นเพราะช้างเชือกดังกล่าวอาจจะใช้ลำตัวบริเวณที่ฝังไมโครชิปไปถูกับต้นไม้ทำให้ไมโครชิปเคลื่อนหรือหลุดออกไปก็เป็นได้”
รองผบช.ก.เปิดเผยต่อว่า เรื่องการตรวจสอบตั๋วรูปพรรณของช้าง พบมีลักษณะรูปพรรณใกล้เคียงจำนวน 16 เชือก ลักษณะไม่สอดคล้องกับตั๋วรูปพรรณจำนวน 20 เชือก ส่วนช้างอีก 7 เชือก ปางช้างไทรโยค ยังไม่สามารถนำตั๋วรูปพรรณมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของเราได้ ด้านลูกช้างที่มีอยู่ทั้งหมด 8 เชือก พบฝังไมโครชิปแล้ว 2 เชือก ส่วนอีก 6 เชือกยังไม่ได้ฝังไมโครชิป โดยลูกช้างทั้งหมดยังไม่มีตั๋วรูปพรรณ เนื่องจากอายุยังไม่ถึง 8 ปี ตนจึงตัดสินใจว่าเราก็สมควรที่จะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
“ดังนั้น จึงจะให้เวลากับทางเจ้าของปางช้างไทรโยคถึงวันที่ 15 ก.พ.55 เพื่อให้รีบนำตั๋วรูปพรรณช้างที่เป็นตั๋วรูปพรรณต้นฉบับที่ยังไม่สามารถนำมาแสดงเป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ได้รวมทั้งหมด 7 เชือกให้รีบนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่โดยด่วนภายในที่กำหนด”
จากกรณี นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผวจ.กาญจนบุรี และ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. ลงพื้นที่ตรวจสอบตั๋วรูปพรรณช้างที่ปางช้างไทรโยค เลขที่ 30/2 หมู่ 3 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และพบพิรุธ ต่อมาวันที่ 31 ม.ค.55 พล.ต.ต.ศรีวราห์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรโยค หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ปศุสัตว์อำเภอไทรโยค สาธารณสุขอำเภอไทรโยค และฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ร่วมเดินทางลงพื้นที่ปางช้างไทรโยค เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในการตรวจสอบตั๋วรูปพรรณและตรวจดีเอ็นเอ ช้างจำนวน 51 เชือก
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ก.พ.) คณะทำงานทั้งหมดได้เดินทางมาร่วมประชุมหารือที่ห้องประชุม สภ.ไทรโยค โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เพราะมีปัญหาหลายประการที่ต้องตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารรูปพรรณช้างที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และมีการสอบถามฝ่ายปกครองเกี่ยวกับกระบวนการออกตั๋วรูปพรรณ รวมทั้งให้ช่วยประสานหาข้อมูลเกี่ยวกับการออกตั๋วช้างทุกตัวเพื่อให้เกิดความถูกต้องในการดำเนินการสอบสวน เนื่องจากมีช้างที่มีรูปพรรณไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในตั๋วอีกหลายเชือก
พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.เปิดเผยว่า จากการที่เข้าไปที่เกิดเหตุปางช้างไทรโยคอีกครั้ง เราได้ตรวจสอบข้อมูลตั๋วรูปพรรณช้างจำนวน 51 เชือกและเจาะเอาเลือดช้างและนำขนช้างของแต่ละเชือกไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์สายพันธุ์ของช้าง โดยเฉพาะการตรวจดีเอ็นเอ ของแม่และลูกว่าตรงกันหรือไม่
“การตรวจดีเอ็นเอนั้น คาดว่า จะรู้ผลภายใน 2 อาทิตย์ ช้างทั้ง 51 เชือกพบติดไมโครชิป 50 เชือก ตรวจไม่พบไมโครชิปจำนวน 1 เชือก โดยเจ้าหน้าที่ของปางช้างไทรโยค ให้เหตุผลกับเราว่า สาเหตุที่ตรวจไม่พบเป็นเพราะช้างเชือกดังกล่าวอาจจะใช้ลำตัวบริเวณที่ฝังไมโครชิปไปถูกับต้นไม้ทำให้ไมโครชิปเคลื่อนหรือหลุดออกไปก็เป็นได้”
รองผบช.ก.เปิดเผยต่อว่า เรื่องการตรวจสอบตั๋วรูปพรรณของช้าง พบมีลักษณะรูปพรรณใกล้เคียงจำนวน 16 เชือก ลักษณะไม่สอดคล้องกับตั๋วรูปพรรณจำนวน 20 เชือก ส่วนช้างอีก 7 เชือก ปางช้างไทรโยค ยังไม่สามารถนำตั๋วรูปพรรณมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของเราได้ ด้านลูกช้างที่มีอยู่ทั้งหมด 8 เชือก พบฝังไมโครชิปแล้ว 2 เชือก ส่วนอีก 6 เชือกยังไม่ได้ฝังไมโครชิป โดยลูกช้างทั้งหมดยังไม่มีตั๋วรูปพรรณ เนื่องจากอายุยังไม่ถึง 8 ปี ตนจึงตัดสินใจว่าเราก็สมควรที่จะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
“ดังนั้น จึงจะให้เวลากับทางเจ้าของปางช้างไทรโยคถึงวันที่ 15 ก.พ.55 เพื่อให้รีบนำตั๋วรูปพรรณช้างที่เป็นตั๋วรูปพรรณต้นฉบับที่ยังไม่สามารถนำมาแสดงเป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ได้รวมทั้งหมด 7 เชือกให้รีบนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่โดยด่วนภายในที่กำหนด”