ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มใหญ่วัย 40 ปี ซิ่งเก๋งส่ายไปมาบนถนนหลวง คล้ายเมาสุรา ก่อนพุ่งเสยท้ายรถยนต์กระบะ และรถเก๋งขณะจอดติดสัญญาณไฟแดงจนท้ายพังยับ บาดเจ็บ 1 ราย ส่วนหนุ่มใหญ่เลือดนองใบหน้า อาการสาหัสติดคารถ กู้ภัยรุดช่วยงัดร่างส่งโรงพยาบาล
วันนี้ (30 ม.ค.) ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายกันจำนวนหลายคัน เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ที่เกิดเหตุบนถนนสุขุมวิท กม.180 เส้นทางระยอง-สัตหีบ บริเวณแยกไฟแดงประตูทางเข้า หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ
ในที่เกิดเหตุบนถนนในเลนขวาพบ รถยนต์ชนท้ายติดต่อกันจำนวน 3 คัน คันแรกเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นออพตร้า สีดำ ทะเบียน ฌป-3651 กรุงเทพมหานคร มีนายประยงค์ พรหมสุวรรณ อายุ 37 ปี เป็นคนขับ คันที่ 2 รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สเปซแค็บ สีบรอนซ์ ทะเบียน บท-8032 ระยอง มีนายสมพงษ์ ณ ชม อายุ 35 ปี เป็นคนขับ และมีนางสิวนันท์ แสงผึ้ง อายุ 37 ปี ภรรยา นั่งมากับรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งรถทั้ง 2 คันอยู่ในสภาพด้านท้ายพังยับเยิน และคันท้ายสุดเป็น รถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า 323 สีแดง ทะเบียน กข-1950 ชลบุรี สภาพด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าแตก และเครื่องยนต์แตกเป็นเสี่ยง มีน้ำมันเครื่องไหลนองพื้นถนน ในรถพบคนขับทราบชื่อคือ นายบุญรัตน์ พุทธรักษา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/3 ม.5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณใบหน้ามีบาดแผลฉกรรจ์ มีเลือดไหลจำนวนมาก และตามร่างกายมีอาการทางกระดูกหลายแห่ง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ให้การช่วยเหลือนำตัวออกจากรถอย่างทุลักทุเล ก่อนนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งรักษายังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
จากการสอบถาม นายวีรพงษ์ บุญดี อายุ 27 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ขับรถตามท้ายรถยนต์เก๋งของนายบุญรัตน์ มาจากทางจังหวัดระยอง มุ่งหน้าเข้าตลาดสัตหีบ ได้ขับมาด้วยความเร็วส่ายไปส่ายมาตลอดทาง จนมาถึงที่เกิดเหตุเป็นขณะที่รถยนต์เก๋ง เชฟโรเลต และรถยนต์กระบะ อีซูซุ จอดติดสัญญาณไฟแดงอยู่ ได้พุ่งชนท้ายอย่างจังจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นครั้งนี้
ด้าน ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา พนักงานสอบสวน กล่าวว่า เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับนายบุญรัตน์ ข้อหา ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย และหากผลตรวจของแพทย์ระบุว่าดื่มสุราก็จะเพิ่มอีกกระทงในข้อหาเมาแล้วขับ