ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจสัตหีบรวบ 1 ใน 3 ผู้ต้องหาลักพระเครื่องมูลค่านับล้านบาท บ้านนายทหารเรือ สารภาพนำไปแลกยาบ้า พร้อมขออนุมัติหมายจับหัวหน้าแก๊งและพวก
จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนตัดกุญแจ บุกเข้าโจรกรรมพระบูชา พระเครื่องกว่า 1 พันองค์และนาฬิกายี่ห้อหรู ภายในบ้านเลขที่ 163/13 หมู่บ้านนภาพรรณแลนด์ ม.3 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในช่วงกลางดึกของวันที่ 6 ธ.ค.54 ซึ่งเจ้าของบ้าน เรือเอก วินัย อินทร์บุรี อายุ 48 ปี สังกัด กรมสนับสนุน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ไม่อยู่ เป็นเหตุให้คนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เบื้องต้น ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้เชิญตัวผู้เสียหายไปสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมเก็บรอยนิ้วมือแฝงซึ่งคาดเป็นของคนร้ายไปทำการตรวจสอบ
ความคืบหน้า วันนี้ (15 ธ.ค.) พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง.ผกก.(ส) พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง รองผกก.(ป) พ.ต.ท.ปารุต สามารถ สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสมพงษ์ หรือ เจ ท้วมสมบูรณ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/64 ซ.บ่อนไก่ ม.5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 1 ใน 3 ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์บ้านนายทหารเรือ พร้อมของกลางพระบูชา 4 องค์ พระเครื่องเหรียญ 650 องค์ และพระเครื่องเนื้อดิน 223 องค์ และคีมตัดกุญแจ ที่นำไปซุกซ่อนไว้ในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยสัตหีบสุขุมวิท 81 (จามจุรี) ม.6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ
จากการสอบสวน นายสมพงษ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน คือ นายอนุวัฒน์ หรือ บี ปรารมภ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/1 ม.1 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และ นายแบงค์ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) อายุ 21 ปี วัยรุ่นพื้นที่บางเสร่ เข้าไปโจรกรรมพระเครื่อง โดยอ้างว่า ตนมีเพียงหน้าที่ดูต้นทาง ส่วนผู้ที่บุกเข้าโจรกรรมคือ นายบี และนายแบงค์ หลังก่อเหตุได้เข้าไปกบด้านภายในห้องเช่าซอยจามจุรี และแบ่งทรัพย์สินกัน ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี
ที่ผ่านมา ได้เคยก่อเหตุเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านเรือนประชาชนแล้ว 6 ครั้ง แต่ทำคนเดียว โดยมุ่งเป้าหมายทรัพย์สินเป็นพระเครื่อง และพระบูชา เพื่อนำไปแลกเป็นยาบ้ากับ นายป๊อป (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ) เป็นสายลับตำรวจในชุดจับกุม
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ กล่าวว่า พระเครื่องที่ได้กลับคืนมาเป็นพระใหม่ไม่มีราคาแพงมากนัก ส่วน พระแท้ พระยอดนิยม ที่มีราคาสูงนายอนุวัฒน์ หรือบี หัวหน้าแก๊ง ได้คัดเลือกไปทั้งหมดและคาดว่าจะขายทอดตลาดแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพัทยา จับกุมผู้ต้องหาที่เหลือพร้อมส่งชุดสืบสวนออกติดตามตัว ซึ่งจากแหล่งข่าวทราบว่าทั้งคู่ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปกบดานอยู่ในเขตเมืองพัทยา
ส่วนกรณี นายสมพงษ์ หรือ เจ ผู้ต้องหา ให้การกล่าวอ้างว่า พระเครื่องที่เคยก่อเหตุโจรกรรมมานั้นได้นำมาแลกเป็นยาบ้ากับนายป๊อป สายลับตำรวจในชุดจับกุมเบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้วหากพบมีมูลความจริงก็พร้อมจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างไม่มีข้อยกเว้น
