ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้พักพิงศูนย์ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ 280 ชีวิต ก้มกราบเสด็จเตี่ย อำลาหลังต้องกลับคืนสู่ภูมิลำเนา ลั่นวาจา “มิตรภาพไม่มีวันลบเลือน” พร้อมขอบคุณในน้ำใจทหารเรือที่ดูแลทุกข์สุขตลอดระยะเวลา 1 เดือน 10 วัน
พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการที่พักพิงทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ เป็นประธานปิดศูนย์พักพิงทัพเรือภาคที่ 1 ณ โรงเก็บปืนกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 21 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือตรี นพดล สุภากร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง นาวาเอก สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บังคับการกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ พร้อมผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ ทหาร และครูฝึก เข้าร่วมในพิธี พร้อมส่งผู้พักพิง 280 คน กลับคืนสู่ภูมิลำเนา ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
ทั้งนี้ พลเรือตรี นพดล สุภากร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กล่าวว่า นับจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษ ทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องจมอยู่ใต้บาดาล ขณะที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้าย ก็ที่มวลน้ำอันมหาศาล ไหลผ่านทำให้เกือบทุกพื้นที่ของจังหวัดจมอยู่ใต้บาดาล ขณะที่ศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครเกือบทุกแห่งต้องปิดตัวลง
รัฐบาลจึงมอบหมายให้กองทัพเรือ เป็นหน่วยรับผิดชอบให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และจัดที่พักพิงรองรับผู้ประสบอุทกภัย โดยให้ ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ นำโดย พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นหน่วยแม่ในการประสานงาน และการปฏิบัติ
กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ทัพเรือภาคที่ 1 ได้มีคำสั่งเร่งด่วนให้หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยใช้พื้นที่กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 รองรับผู้ประสบอุทกภัย ที่อพยพมาจากศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยมหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพฯ เขตสายไหม จำนวน 280 คน ตลอดระยะเวลา 1 เดือน 10 วัน ทางหน่วยได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ทั้งด้านการประกอบอาหารจัดเลี้ยง เครื่องอุปโภค บริโภค และเงินบริจาค ที่ร่วมกันช่วยเหลือหวังให้ผู้พักพิงได้มีความเป็นอยู่ที่ดี นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมต่างๆ ในการบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบอุทกภัย
ตลอดจนการจัดฝึกอบรมอาชีพ เพื่อให้ผู้พักพิงสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ เลี้ยงครอบครัวหลังน้ำลด และยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยทางหน่วยได้รับซื้อสินค้าที่ผู้พักพิงจัดทำขึ้น เพื่อนำไปวางขายเป็นของที่ระลึก ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ
และในโอกาสที่ผู้พักพิงจะต้องเดินทางกลับคืนสู่ภูมิลำเนา เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล คลี่คลายลงจนหลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติ ทางหน่วยได้จัดรถบัสขนาดใหญ่ 3 คัน ส่งผู้พักพิงถึงที่หมาย พร้อมมอบถุงยังชีพคนละ 1 ถุง อุปกรณ์ทำความสะอาด และ EM BALL ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำเน่าขังตามบ้านเรือน ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังน้ำลด
ด้าน พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้กล่าวขอบคุณ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ ตลอดจนผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ ทหาร และทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยกันขับเคลื่อนภารกิจอันสำคัญ ในการช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องชาวไทยที่พบประสบความโชคร้าย ให้พบกับความโชคดี ที่เจ้าหน้าที่ทหารเรือ หน่วยงานจากทุกภาคส่วน และประชาชน ได้ร่วมมือร่วมใจกันให้ความช่วยเหลือ อันแสดงออกถึงความมีน้ำใจของคนไทย ทำให้ประจักษ์กับสายตาชาวต่างชาติทั่วโลก ว่า คนไทยมีน้ำใจไม่ทอดทิ้งกัน จนเป็นที่ซาบซึ้งใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย
สำหรับบรรยากาศสุดท้ายก่อนที่ผู้พักพิง 280 ชีวิต จะต้องอำลาทหารเรือ กลับคืนสู่ภูมิลำเนา ทำให้ผู้พักพิงและชายชาติทหารบางนายต้องหลั่งน้ำตา ส่งสายสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน บ้างส่งดอกกุหลาบแดง แทนสื่อความรัก เขียนลายลักษณ์อักษร ระบายความรู้สึกบนผืนเสื้อไว้เป็นความทรงจำ พร้อมก้มกราบลาขอพรพระบรมรูปเสด็จเตี่ย ก่อนผู้พักพิงทุกคนได้กล่าวขอบคุณทหารเรืออย่างสุดซึ้ง และจะจดจำความทรงจำที่ดีนี้ไว้ตลอดไป “มิตรภาพไม่มีวันลบเลือน”
