เมีย“ยุทธ ตู้เย็น”โผล่รับ“ปู”ลงเชียงราย-แดงขนคนร่วมแน่น

เชียงราย - เครือข่ายคนเสื้อแดงหลายกลุ่มในเชียงราย รวมถึง “เมียยุทธ ตู้เย็น” ตลอดจนผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น-ท้องที่ แห่รับ “ยิ่งลักษณ์” ถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง

วันนี้(14 ม.ค.55) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการที่ จ.เชียงราย โดยใช้เครื่องบินส่วนตัว ไปลงที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง เมื่อเวลา 14.30 น. จากนั้นเดินทางไปยังโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อนที่จะเดินทางไปเชียงใหม่ในวันเดียวกัน

ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงนั้น มีนักการเมืองท้องถิ่นและข้าราชการที่อยู่ในเครือข่ายพามวลชนรวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงหลากหลายกลุ่ม ไปต้อนรับบริเวณท่าอากาศยานฯ เป็นจำนวนมาก เช่น นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรี จ.เชียงราย และกรรมการพัฒนาสตรีภาคเหนือ ภรรยาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช นักการเมืองชื่อดังชาวเชียงราย

นายสมพงษ์ กูลวงศ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ,นางอรัญญา บุญตานนท์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าสาย อ.เมือง ,นางวิยดี สุตะวงศ์ ผู้ชำนาญการประจำคณะกรรมาธิการการเงิน การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร หรือเลขาตุ๋ย พี่สาวของนายสมควร สุตะวงศ์ นายก อบต.บ้านแซว อ.เชียงแสน แกนนำคนเสื้อแดงกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย อีกหลายคน เช่น นายสามารถ แก้วมีชัย -น.ส.ละออง ติยะไพรัช -นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ฯลฯ ส่วนมวลชนเสื้อแดงมี นางมติ แซ่อั้ง -น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม จากชมรมคนรักทักษิณเชียงราย 49 -นายธนากร บุญศรี -นางทักษิณา มาสุข จากกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตย -นางสุพรรณี แสงอรุณ กลุ่มคนเสื้อแดง อ.เวียงชัย -นายสุกิจ สุวรรณประชา แกนนำคนเสื้อแดง อ.เมือง ฯลฯ

นางสุพรรณี แสงอรุณ กลุ่มคนเสื้อแดง อ.เวียงชัย ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้นายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อเกี่ยวกับโครงการชำระหนี้เกษตรกรซึ่งดำเนินการโดยรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่าโครงการยังไม่ครอบคลุมถึงลูกหนี้ที่เป็นเกษตรกร ซึ่งเป็นหนี้กับสถาบันการเงินอื่นๆ ที่คนส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้ โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตร

กรณีของชาวบ้านกลุ่มนี้ พบว่าเป็นหนี้กับสหกรณ์การเกษตร อ.เวียงชัย เป็นจำนวนมากเฉลี่ยรายละ 100,000-200,000 บาทขึ้นไป จึงขอให้ขยายโครงการไปยังสถาบันการเงินต่างๆ ดังกล่าวด้วย

นางสุพรรณี กล่าวว่า โครงการส่วนใหญ่ให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้เป็นหนี้กับสถาบันการเงินหลักๆ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมทั้งบางส่วนอยู่ในกองทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเกษตรกร ฯลฯ แต่ก็ยังมีชาวบ้านจำนวนมากที่ไม่ได้เป็นลูกหนี้ของ ธ.ก.ส.และไม่ได้อยู่ในกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งทำให้ประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงอยากให้รัฐบาลนี้ได้ช่วยเหลือลูกหนี้นอกโครงการดังกล่าวด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันมีนโยบายให้โยกหนี้สินของเกษตรกรที่มีปัญหาและเรียกร้องให้รัฐบาลทุกยุคสมัยแก้ไขกันมานาน ไปอยู่ในการดูแลของ ธ.ก.ส.ประมาณ 50% เพราะหนี้สินส่วนใหญ่เกิดกับ ธ.ก.ส.แต่ก็มีอีก 50% ให้อยู่ในกระบวนการของกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งทำให้กลุ่มเครือข่ายหนี้สินที่ออกมาเรียกร้องต้องการให้ไปอยู่ในกองทุนฟื้นฟูฯ เหมือนเดิม เพราะครอบคลุมทุกสถาบันการเงิน