ศูนย์ข่าวศรีราชา- ผู้นำพร้อมชาวบ้านชลบุรี 12 ชุมชนกว่า 600 คน ร่วมประชาพิจารณ์ไม่ขัดข้องสร้างนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เฟส 2 แต่ต้องไม่กระทบหรือส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมเกื้อกูล ทาสิทธิ์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พหุภาษา ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.เมือง จ.ชลบุรี บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็น เพื่อเป็นการทบทวนร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ในการสร้างนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร แห่งที่ 2 พื้นที่ ต.บางนาง ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี จำนวน 2,000 ไร่ โดยมี ผู้นำท้องถิ่น ข้าราชการ ชาวบ้าน 12 ชุมชน กว่า 600 คน เข้าร่วมรับฟังและให้ข้อคิดเห็น
ทั้งนี้ ตามที่ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้พัฒนาและบริหารจัดการด้านนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศไทย โดยปัจจุบันมีนิคมอุตสาหกรรมที่เปิดดำเนินการมาแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง โดยชลบุรีเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายของการพัฒนา และส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมตามแผนการพัฒนาทั้งระดับภูมิภาคและระดับชาติ
ดังนั้น บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จึงได้รวบรวมพื้นที่ เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครแห่งที่ 2 โดยมีเป้าหมายของการพัฒนาเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ที่มีความทันสมัยและเพียบพร้อมด้วยระบบสาธารณูปโภค เพื่อรองรับการขยายตัว ของภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ภายใต้การร่วมดำเนินงานกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
พื้นที่โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม ห่างจากกรุงเพมหานครเพียง 57 กม.มีโครงข่ายการคมนาคมขนส่งที่สะดวก คือ ห่างจากสนามบินนานาชาติ สุวรรณภูมิประมาณ 42 กม.ติดกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและไม่ไกลจากท่าเรือพาณิชย์นานาชาติ ได้แก่ท่าเรือน้ำลึกสัตหีบ ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ท่าเรือน้ำลึกเกาะสีชัง
ซึ่งสามารถรองรับการจอดเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อลำเลียงและขนถ่ายสินค้า ทำให้ลดต้นทุนในการขนส่งวัตถุดิบ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ พื้นที่โครงการที่จะพัฒนา เป็นนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครแห่งที่2 มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ ตั้งอยู่เขตพื้นที่ ต.บางนาง และ ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมบริหาร บ.อมตะนคร คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในการสร้างนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เฟส 2 ได้ให้ความสำคัญมากเกี่ยวกับเรื่องแวดล้อม และผังเมือง โดยมีนโยบาย สร้างโรงงานอุตสาหกรรมขึ้นมา ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เน้นให้ความสำคัญกับการจราจร โดยเฉพาะการป้องกันน้ำท่วม ซึ่งทางนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครจะสร้างโครงการแก้มลิง เพื่อรองรับปริมาณน้ำได้ถึง 20 ล้านลูกบาศก์เมตร และกำลังเพิ่มขยายเป็น 30 ลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยกักเก็บน้ำที่หลากในฤดูฝนอีกด้วย
นอกจากนี้ จะเน้นการขยายคลองเพื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะได้ช่วยระบายน้ำได้เร็วมากขึ้น พร้อมจะพัฒนาเมืองที่สมบูรณ์แบบ ที่เรียกว่า เมืองอัจฉริยะ ที่ร่วมกับรัฐบา ญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 2 ปี โดยใช้เทคโนโลยี ควบคุมเรื่องสิ่งแวดล้อม ให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น มีการลดพลังอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างเมืองวิทยาศาสตร์กับเมืองมหาวิทยาลัย ให้ยิ่งใหญ่อีก
ขณะที่ นายจิติล คุ้มครอง ผู้นำท้องถิ่น กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านไม่ขัดข้องหากนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จะสร้างเฟส 2 ขึ้นมา ใน อำเภอพานทอง หากแต่อยากให้ ประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และแขวงการทาง จังหวัดชลบุรี เข้ามาช่วยจัดการดูแลด้านสาธารณูปโภคให้พอเพียง จะได้แก้ไขและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
