ลำปาง - เจ้าของโรงงานดินขาวลำปาง แจงสื่อ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไม้ที่ตำรวจภาค 5 นำกำลังเข้าจับ พร้อมนำสำรวจพื้นที่ของโรงงาน ชี้สถานที่เกิดเหตุเป็นของโรงงานดินขาวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ยอมขึ้นป้ายชื่อ
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.สุวรรณ์ เอกโพธิ์ ผบก.บก.สส.ภ.5 พร้อมกำลังกว่า 10 นาย เข้าตรวจยึดไม้สักท่อน กว่า 500 ท่อน ไม้สักแปรรูปชนิดท่อนและแผ่นเรียบ กว่า300 แผ่นเหลี่ยม เลื่อยวงเดือน 3 ตัว กลางโรงงานดินขาวเมื่อ 14 ธ.ค.54 ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุเป็นพื้นที่ของ โรงงานดินขาว ที.ไอ.ซี1991จำกัด ซึ่งมีนายกิตติศักดิ์ รอดครุฑา เป็นเจ้าของนั้น
นายกิตติศักดิ์ รอดครุฑา เจ้าของ บริษัท ที.ไอ.ซี.จำกัด พร้อมด้วยนายอธิภูมิ กำธรวรรินทร์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ได้เชิญสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบพื้นที่ของโรงงาน เพื่อยืนยันว่า สถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค5 นำกำลังเข้าตรวจยึดไม้เถื่อนพร้อมแท่นเลื่อยจำนวนมาก ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของโรงงาน ของนายกิตติศักดิ์ แต่อย่างใด
นายกิตติศักดิ์ ได้ชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวมีโรงงานที่ประกอบกิจการทำดินขาว รวมอยู่ด้วยกัน 3 โรงงาน คือ บริษัท กิ่วลม จำกัด , หจก.เหมืองดินขาวธีรยุทธ และ บริษัท ที.ไอ.ซี. 1991จำกัด แต่เนื่องจากป้ายที่บอกชื่อโรงงาน มีเพียงสองป้าย คือ ป้ายแรกเป็นของ บริษัท กิ่วลม จำกัด และป้ายที่สองคือ บริษัท ที.ไอ.ซี.1991 จำกัด ของตนเอง สองโรงงานแรกทำในลักษณะเครือญาติและมีโรงงานอยู่ติดกันบริเวณด้านหน้า แต่มีการขึ้นป้ายหน้าโรงงานเพียง บริษัท กิ่วลม จำกัด เท่านั้น ส่วนอีกหนึ่งโรงงานไม่มีป้ายขึ้นที่หน้าโรงงาน
เมื่อเข้ามาจากบริเวณปากก็จะพบสองโรงงานนี้ก่อน ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้ามาตรวจยึดไม้ ก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกพื้นที่ และคงไม่ทราบข้อมูล เมื่อเห็นป้ายชื่อโรงงานเพียงแห่งเดียวก็คงสันนิฐานว่า อีกโรงงานคือ บริษัทที.ไอ.ซี.1991จำกัด ตามป้ายบอกทางด้านหน้า ซึ่งเป็นของตนเอง แต่ที่จริงแล้ว โรงงานของตนเองไม่ได้อยู่ด้านหน้า แต่อยู่ด้านหลัง ซึ่งต้องอ้อมมาคนละทาง หากไม่รู้จักและไม่เคยเข้ามาก็คงไม่ทราบว่า ยังมีอีกหนึ่งโรงงานที่อยู่ด้านหลัง
ซึ่งโรงงานของตนมีเพียงโรงบดดินเนื่องจากจำหน่ายเฉพาะดินดิบ ก็ได้ขึ้นป้ายบริษัท ไว้หน้าโรงงานอย่างชัดเจน และได้รับการรับรองระบบISO 9001:2000 จากสถาบันวิชัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ด้วย
“เมื่อมีข่าวออกไปตนเองก็ไม่สบายใจ เพราะตนก็ทำธุรกิจด้านนี้มานาน มีคนรู้จักมาก และเคยดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมเหมืองแร่เพื่อการอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ปัจจุบันก็เป็นคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง คงไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายอย่างแน่นอน และข่าวดังกล่าวอาจจะมีผลต่อการขอประทานบัตรในอนาคตของบริษัทด้วย จึง ได้รีบชี้แจงต่อสื่อมวลชนให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง”
ด้านนายษเอม สันป่าแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ลป.8(แม่ทรายคำ) กล่าวว่า หน่วยงานของตนมีหน้าที่เพียงรักษาดูแลของกลางทั้งหมด ส่วนผู้ที่กล่าวหาคือตำรวจภูธรภาค5 และผู้รับเรื่องในการสืบสวนสอบสวนคือ ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด เนื่องจากไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ แต่ได้ตั้งข้อหาไว้ 2 ข้อหา คือตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
ส่วนจะเรียกใครมารับทราบข้อกล่าวหานั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่ดินมาตรวจสอบพื้นที่ ว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของใคร แต่เท่าที่ดูตนคิดว่าเป็นพื้นที่ที่มีเจ้าของชัดเจน แต่ก็ต้องรอการยืนยันจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง