ลำปาง - ตำรวจภูธรภาค 5 บุกจับไม้เถื่อนกลางโรงงานดินขาวชื่อดังลำปาง หลังตามรอยรถขนไม้จากสายเหนือแถบแจ้ห่ม ผ่านเข้าโรงงานหลายครั้ง จนพบคาตา และถูกคนงานขับรถพุ่งชนหนีไปได้ ขณะที่เจ้าของโรงงานอ้างไม่รู้ของใคร บอกเป็นพื้นที่เปิดใครก็เข้า-ออกได้ ทั้งที่เป็นที่ดินเอกชน จนท.คาดทำมานาน สงสัยหน่วยงานในพื้นที่กลับมองไม่เห็น
วันนี้ (14 ธ.ค.) ภายในโรงงานดินขาว ที.ไอ.ซี.1991 จำกัด บ้านแพะหนองแดง ม.3 ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.สุวรรณ์ เอกโพธิ์ ผบก.บก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.ธวัชชัย อยู่มาก, พ.ต.ต.จักรียุทธ โชติวชระพงศ์, พ.ต.ท.นพฤทธิ์ กันทา, ร.ต.อ.มานพ ใจปลา, ร.ต.อ.อนุรักษ์ นิลเขตต์ พร้อมกำลังกว่า 10 นาย ได้ทำการตรวจยึดไม้สักกว่า 500 ท่อน ไม้สักแปรรูปชนิดท่อนและแผ่นเรียบ กว่า 300 แผ่นเหลี่ยม เลื่อยวงเดือน 3 ตัว เพื่อส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 ได้ติดตามพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่ลักลอบตัดไม้และนำมาแปรรูปโดยผิดกฎหมายกลุ่มนี้มากว่า 3 เดือน โดยพบว่า ทำเป็นขบวนการมีการใช้รถปิกอัพเพียงคันเดียวขนไม้มาจากสายเหนือ คือ อ.แจ้ห่ม ผ่านถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม เป็นประจำ และจากการติดตามเมื่อมาถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 10 รถที่ขนไม้ก็จะหายเข้าไปยังซอย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานดินขาว ที.ไอ.ซี.1991 จำกัด ที่เป็นพื้นที่ของเอกชน จึงทำให้ไม่สามารถติดตามเข้าไปภายในได้
จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวขนไม้มาเต็มคันรถ จึงขับรถไล่ติดตามมาจนกระทั่งรถคันดังกล่าวเลี้ยวเข้าไปภายในโรงงาน และขนไม้ลงจากรถ เมื่อเจ้าหน้าที่ขับรถไล่ติดตามไปถึง คนขับและผู้โดยสารที่มาด้วยเห็นจึงได้ขับรถพุ่งชน ก่อนจะหลบหนีไปได้
เมื่อตรวจสอบโดยทั่วบริเวณจึงพบว่าด้านหลังของโรงงานดินขาว ซึ่งอยู่ติดกับทุ่งนา มีการลักลอบตั้งแท่นเลื่อยไม้ ถึง 3 แท่น และมีไม้สัก ไม้กระยาเลย ที่ทำการตัดเป็นท่อนขนาดความยาว 1-4 เมตร วางกระจัดกระจาย รวมแล้วกว่า 500 ท่อน นอกจากนั้นยังมีไม้แปรรูปทั้งที่เป็นแผ่นเหลี่ยมและท่อนอีกกว่า 300 แผ่น เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังเฝ้าของกลางทั้งหมดไว้ตลอดทั้งคืน
จนกระทั่งสายของวันนี้ (14 ธ.ค.) จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้ามาลำเลียงไม้และอุปกรณ์ทั้งหมดออกจากโรงงาน เพื่อส่งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ต่อไป
ส่วนเจ้าของโรงงาน คือ นายกิตติศักดิ์ รอดครุฑา ได้มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ไม้ทั้งหมดไม่ใช่ของตนเอง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว บุคคลอื่นสามารถผ่านเข้าออกได้ แต่จากการตรวจสถานที่พบว่า เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลหากไม่รู้จักหรือคุ้นเคยก็ยากที่จะเข้าออกได้ เนื่องจากทางเข้าสลับซับซ้อน
จากการตรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุ คาดว่า น่าจะมีการดำเนินงานมานานแล้ว จึงเป็นที่สังเกตว่าการแปรรูปไม้จำนวนมากและเป็นเวลานานดังกล่าว ทำไมเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในพื้นที่ถึงไม่มีใครรับรู้
