แฉนายทุนลักไก่ขุดดินขาวลำปางหลังสัมปทานหมดอายุ-เด็กนักการเมืองเอี่ยวอีก

ลำปาง – สายตรวจป่าไม้ภาคเหนือบุกตรวจพื้นที่นายทุนลักไก่ขุดดินขาวพื้นที่ป่า ที่ขาดสัมปทานกว่า 8 ไร่ ที่แจ้ห่ม หลังเคยโดนแจ้งความดำเนินคดีมาแล้วรอบหนึ่ง มูลค่าความเสียหายเฉพาะป่าไม้เกือบ 6 แสน พร้อมตรวจสอบความเสียหายที่รัฐได้รับจากการลักลอบขุดดินเผาเพิ่ม เผยมีคนสนิทนักการเมืองใหญ่เอี่ยวด้วย

วันที่ 30 เม.ย. 54 นายจรัส นีรนาทไพบูลย์ หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ภาคเหนือตอนบน พร้อมด้วย นายพิเชษฐ เหล่าตระกูล หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ลป.36(ไผ่งาม) และกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แจ้ห่ม และนายมัธยม นิภาเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 คน เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าหลังหมู่บ้านสาแพะ ม.7 ตำบลบ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง

หลังได้รับทราบทางลับว่า พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับสัมปทานเหมือง (ดินขาว) มีชื่อของนายเชิด ซุ่มแก้ว อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 237/1 ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เป็นผู้ขออนุญาตครอบครองแร่ และมีบริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสตรี จำกัด(มหาชน) เป็นผู้รับช่วง โดยมีกำนันดังตำบลบ้านสา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ และเป็นมือขวาของนักการเมืองใหญ่คนหนึ่ง เป็นผู้ดูแล แต่ประทานบัตรดังกล่าวหมดอายุไปเมื่อ 14 สิงหาคม 2552
แต่เนื่องจากมีดินขาวที่ขุดไว้ก่อนยังมีหลงเหลืออยู่ จึงได้ขออนุญาตครอบครองและขนย้าย แต่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เข้าตรวจสอบ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2553 พบว่า มีการขุดเพิ่มจึงได้จับกุมไปแล้วหนึ่งครั้ง พร้อมยึดรถแบคโฮไว้ ขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นสอบสวน

จนกระทั่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบอีกครั้งพบว่า ปากทางเข้าซึ่งเป็นทางสาธารณะถูกนายทุนปิดเส้นทาง โดยใช้เหล็กและปิดกุญแจ เมื่อเจ้าหน้าที่อ้อมเข้าอีกฝั่งหนึ่งจึงพบว่ามีการใช้รถแบคโฮขุดดินขาว ขยายพื้นที่ที่เคยได้รับสัมปทานเพิ่มอีก แต่คนขับแบคโฮไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดรถแบคโฮ ซึ่งมีทั้งหัวตักและหัวเจาะ รวม 4 คัน

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่อจีพีเอส จับพิกัดพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมรวม 8 ไร่ มูลค่าความเสียหายเฉพาะพื้นที่ป่าประมาณ 6 แสนบาท ยังไม่รวมความเสียหายของทางภาครัฐที่จะต้องได้จากการขุดแร่(ดินขาว) ซึ่งเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดลำปางจะได้เข้าตรวจสอบและประเมินความเสียหายอีกครั้ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้แจ้งข้อหากับผู้รับอนุญาต รายเดิมเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป่าไม้ และเรียกค่าเสียหาย พร้อมจะส่งเรื่องให้อุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง แจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหนึ่งคดี

นายมัธยม นิภาเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ ว่า จังหวัดลำปางถือเป็นจังหวัดที่มีการขออนุญาตขนย้ายและขอประกอบการเหมืองแร่จำนวนมากอีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ใบอนุญาตหมดอายุและยังอยู่ระหว่างการขออนุญาตใหม่ แต่มีการลักลอบดำเนินการ โดยเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยไม่เข้าตรวจสอบ ซึ่งตรงจุดนี้สร้างความเสียหายให้กับภาครัฐเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นตนจะได้แจ้งให้เรื่องดังกล่าวให้รัฐมนตรีได้รับทราบเพื่อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้เดินหน้าตรวจสอบใบอนุญาตทั้งหมดที่หมดอายุ ว่าผู้ประกอบการมีการลักลอบทำการขุดแร่เช่นเดียวกับรายนี้หรือไม่ และหากหน่วยงานอื่นเป็นผู้เข้ามาตรวจสอบพบการกระทำผิด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบด้วย