ลำปาง - เถ้าแก่โรงงานเซรามิกลำปาง ระดมพนักงานเครือข่าย ยื่นหนังสือผ่านจังหวัด ถึง “มาร์ค” จี้ ชะลอปรับราคา LPG ที่จะเริ่ม 1 ก.ค.นี้ ชี้ให้รอรัฐบาลใหม่ว่าต่อ พร้อมขอส่งตัวแทนร่วมคิดโครงสร้างราคาก๊าซใหม่
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่บริเวณสนามด้านหน้า ศาลากลางจังหวัดลำปาง ผู้ประกอบการโรงงานเซรามิก พนักงาน ลูกจ้างของโรงงาน ร่วม 500 คน นำโดยนายธนโชติ วนาวัฒน์ นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง ได้นำป้ายซึ่งเขียนข้อความว่า เครื่องปั้นลือนาม ยังจะมีอยู่อีกหรือ และเซรามิกลำปาง จะล่มสลาย หากมีการขึ้นราคาก๊าซ พร้อมหนังสือขอความช่วยเหลือกรณีการปรับราคาก๊าซLPG ของภาคอุตสาหกรรมเซรามิก ยื่นต่อนายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ส่งผ่านถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ข้อความในหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่า เป็นเมืองเซรามิก เป็น 1 ใน 10 เมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในหัวข้อเรื่อง ลำปางเมืองเซรามิก ดังคำขวัญของจังหวัดลำปางตอนหนึ่งว่า “เครื่องปั้นลือนาม” เนื่องจากจังหวัดลำปาง มีแร่ดินขาวจำนวนมากทำให้อุตสาหกรรมเซรามิกกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เข้าจังหวัดและเข้าประเทศจำนวนมากในแต่ละปี
จังหวัดลำปาง มีโรงงานเซรามิกกว่า 200 โรงงาน มีการจ้างแรงงานทางตรงกว่า 10,000 คน ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเซรามิก ได้รับผลกระทบทางด้านต้นทุนมาโดยตลอด ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจที่ถดถอย ค่าจ้างขั้นต่ำ ทำให้อุตสาหกรรมเซรามิกเริ่มลดน้อยลงตามลำดับ และในปัจจุบันยังได้รับผลกระทบด้านต้นทุนการผลิตที่เพิ่ม คือ พลังงาน ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมเซรามิก จะใช้ก๊าซ LPG เป็นตันทุนหลักสูงถึง 30-40% เมื่อมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้โรงงานต่างๆต้องแบกรับภาระต้นทุนและพยายามหาหนทางลดต้นทุนด้านอื่นๆ มาตลอดจนถึงปัจจุบัน
แต่เนื่องจากมติ กพช.และ มติ ครม.ให้มีการปรับราคาก๊าซ ในกลุ่มอุตสาหกรรม ขึ้นอีกกิโลกรัมละ 12 บาท ใน 4 ไตรมาส โดยจะให้เริ่มปรับราคาในวันที่ 1 ก.ค.54 ที่จะถึงนี้ ทำให้ผู้ประกอบการเซรามิกรับไม่ได้ และหากมีการขึ้นราคาจริงโรงงานต่าง โดยเฉพาะโรงงานขนาดเล็ก ในอนาคตจะต้องมีการปิดตัวลงอีกอย่างแน่นอน
ดังนั้น จึงขอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาเลื่อนการอนุมัติการปรับขึ้นราคาก๊าซ ออกไปก่อน เพื่อรอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง โดยในขณะนี้ขอให้ตรึงราคาเท่ากับภาคครัวเรือนต่อไป หากมีการปรับราคาก็ขอให้รัฐบาลมีวิธีช่วยชดเชยให้กับภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้ดำเนินกิจการต่อไปได้
นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนโครงการประหยัดพลังงาน เช่น โครงการปรับปรุงเตาประสิทธิภาพสูงหรือเปลี่ยนฉนวนผนังเตา และให้กำหนดราคาก๊าซเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยขอให้ทบทวนวิธีคิดโครงสร้างราคาก๊าซใหม่ โดยให้ภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วมในการคิดดังกล่าวด้วย