ศูนย์ข่าวศรีราชา- แม่ค้าดอกไม้วัย 27 ปี ทนสภาพอากาศหนาวเย็นไม่ไหว ซดสุรา 30 ดีกรี คลายหนาว บ่นคอแห้งวานสามีซื้อน้ำอัดลมให้ดื่ม กลับมาไม่ถึงชั่วโมง พบกลายเป็นศพซุกตัวในผ้าห่ม
วันนี้ (13 ธ.ค.) ร.ต.อ.พรชัย กิ่งสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 031 ซ.ทางรถไฟ 1 ม.1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย แพทย์ประจำตำบล และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวติดทางรถไฟ ห่างจากถนนสุขุมวิทเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในบ้านบนที่นอนพบร่าง น.ส.เกษริน พรหมา อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก อาชีพขายดอกไม้ นอนเสียชีวิตอยู่ในผ้าห่ม สภาพร่างกายแข็งเกร็ง เนื้อตัวเย็นเฉียบ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ใกล้กันพบขวดเหล้า 30 ดีกรี ตั้งอยู่บนพื้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอย หรือหลักฐานของการถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด
จากการสอบปากคำ นายตะวันเพลิง แสงมณี อายุ 36 ปี สามี เล่าว่า เดิมผู้ตายเป็นคนชอบดื่มสุรา จนล้มป่วยเป็นโรคตับแข็ง หมอได้ห้ามอย่างเด็ดขาด ทำให้ผู้ตายเลิกมาได้ประมาณเกือบ 1 ปีแล้ว
กระทั่งเมื่อช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ในพื้นที่เกิดมีอากาศหนาวเย็น โดยระยะ 2 วันให้หลังมีอากาศหนาวเย็นจัดมาก ตนและผู้ตายจึงไปซื้อสุรา 30 ดีกรี มาดื่มเพื่อคลายความหนาว แต่ไม่ให้ผู้ตายดื่มมาก เพราะเกรงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ กระทั่งก่อนเกิดเหตุในช่วงบ่าย ผู้ตายได้ดื่มสุราไปประมาณ 1 แก้วเปก และบอกว่า คอแห้งอยากกินน้ำอัดลม จึงเดินออกไปซื้อเมื่อกลับมาถึงก็พบว่า ผู้ตายได้นอนแข็งเกร็งเสียชีวิตแล้ว
ด้าน นางบังตอง ทองก้อนใหญ่ อายุ 69 ปี ชาวบ้านใกล้เคียง เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านต่างประสบกับความหนาวเย็นของสภาพอากาศ ทำให้ผ้าห่มที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะสร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัวได้ โดยเฉพาะผู้สูงวัย ต่างคลายความหนาวด้วยการดื่มสุรา 30 ดีกรี โดยนำสุรามาให้เจ้าหน้าที่ทดลองดื่มว่าสามารถช่วยคลายหนาวได้จริง
ด้าน ร.ต.อ.พรชัย กิ่งสวัสดิ์ เจ้าของคดี กล่าวว่า เหตุการณ์เสียชีวิตน่าจะมาจากอากาศที่หนาวเย็นจัด ทำให้ผู้ตายไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ ประกอบกับผู้ตายได้ดื่มสุราเข้าไป จึงทำให้โรคตับแข็งกำเริบ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เบื้องต้นได้กล่าวเตือนชาวบ้านไม่ให้แก้ปัญหาความหนาวด้วยการดื่มสุรา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ผิด และอาจทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายจนถึงแก่ชีวิตได้
