ศูนย์ข่าวศรีราชา -รพ.บางละมุง ฉาว ชาวบ้านร้องปล่อยลอยแพคนไข้ โดยให้กลับบ้านเอง อ้างโรงพยาบาลผู้ป่วยเต็ม ไม่มีรถส่งตัว ทิ้งให้ผู้ป่วยหารถไปรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลอื่นเอง
วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลบางละมุง ได้มีกลุ่มเครือญาติของ นางสาวเมธิณี (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี เดินทางเข้าร้องเรียนกับ นายสนิท บุญมาฉาย สมาชิกสภาเมืองพัทยา เกี่ยวกับปัญหาด้านการให้บริการของโรงพยาบาลบางละมุง โดยระบุว่า นส.เมธินี ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน จนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้ามีแผลถลอกและขาหักข้างซ้าย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง แพทย์ได้เอกซเรย์ ระบุว่า ขาขวาบวมผิดรูป ซึ่งพบว่าการวินิจฉัยนั้นผิดพลาด เนื่องจากขาที่หักนั้นอยู่ด้านซ้าย ก่อนจะเข้าเฝือกอ่อน และมีใบส่งตัวให้ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชลบุรี พร้อมแจ้งญาติพาผู้ป่วยกลับบ้าน เนื่องจากโรงพยาบาลเต็ม และไม่มีรถพยาบาลบริการนำส่งตัวผู้ป่วย โดยให้ออกไปหารถเช่าเอาเอง ซึ่งมองดูแล้วเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงได้ร้องเรียนไปทางสมาชิกสภาเมืองพัทยา เบื้องต้น นายสนิท ได้นำรถพยาบาลของมูลนิธิ มารับตัวแล้วส่งไปยังโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อรับการรักษาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้น ได้มีผู้ป่วยอีกคน คือ นางสาวสุนียา จาบหนองปลิง อายุ 27 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์ชนจนได้รับบาดเจ็บ ได้เข้าร้องเรียนกับสมาชิกสภาเมืองพัทยาว่า ประสบเหตุเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา และได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางละมุงแห่งนี้ ก่อนได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลคล้ายกับผู้ป่วยรายแรก คือ ให้ญาติหารถไปส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาต่อเองที่โรงพยาบาลสมเด็จบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ทั้งๆ ที่ได้เข้ารักษาและได้เสียค่าใช้จ่ายในค่ารักษาพยาบาลไปแล้วจำนวน 2,190 บาท โดยได้รับการเอกซเรย์ขาที่กระดูกแตก และเข้าเฝือกอ่อนให้
นอกจากนี้ ในการขนย้ายผู้ป่วยทางรถสองแถวนั้น ทางโรงพยาบาลก็ไม่จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จะประคองผู้ป่วยขาหักให้แต่อย่างใด
ด้าน นายสนิท บุญมาฉาย เผยว่า ได้รับร้องเรียนจากญาติผู้ป่วยและเครือข่ายมูลนิธิ ว่า มีคนเจ็บขาหักและมีบาดแผลที่ใบหน้าทางแพทย์โรงพยาบาลบางละมุง โดยได้มีการเอกซเรย์พบว่าผู้ป่วยขาหักได้ทำการเข้าเฝือกอ่อน หลังจากดำเนินการรักษาแล้วเสร็จ โรงพยาบาลได้แจ้งกับผู้ป่วย ว่า ให้ไปดำเนินการติดต่อหมอของผู้ป่วยที่มีประกันสังคมในการรักษาตัวเอง ที่ รพ.ชลบุรี หรือไปพักรักษาที่บ้านซึ่งหาก 3-7 วัน อาการไม่ดีขึ้นจึงให้กลับมารักษาใหม่
ทั้งนี้ คิดว่า การดำเนินการแจ้งกับผู้ป่วยแบบนี้ ไม่ใช่ลักษณะที่โรงพยาบาลของรัฐใช้ในการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะกรณีที่ปล่อยให้คนไข้เดินทางไปรักษาด้วยตนเอง เพราะหากระหว่างทางคนไข้มีอาการที่ผิดปกติดถึงขั้นรายแรง ใครจะเป็นคนรับผิดชอบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ขณะที่เมื่อขอรับคำตอบจากผู้บริหารถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ก็กลับได้รับคำตอบว่าเป็นวันหยุดของผู้บริหาร โดยได้โยนสายให้คุยกับทางเลขานุการ แต่ทางเลขานุการบ่ายเบี่ยงขอเคลียร์ในวันรุ่งขึ้นแทน
