Astv ผู้จัดการ : “ณัฎฐ์” ยืนยันไม่ได้ขับเร็วหลังพาเบนซ์เสยมอเตอร์ไซค์ขาด 2 ท่อนคนขับสาหัส เจ้าตัวลั่นพร้อมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายและคดีความทั้งหมด ก่อนบอกอุบัติเหตุทำตนหวาดเรื่องขับรถ
หลังซิ่งรถเบนซ์เพื่อรีบไปถ่ายละครกระทั่งไปเสยท้ายของรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจังจนขาดสองท่อนเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่ทราบชื่อต่อมาภายหลังว่า นายอภิวัฒน์ ควรหาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดในวันวาน ทางด้านของนักแสดงหนุ่ม “ณัฎฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ก็ได้ออกมาแถลงข่าวถึงเรื่องนี้แล้วโดยลั่นจะยอมรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด
โดยนักร้องหนุ่มได้เล่าให้ฟังถึงรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นว่า วันเกิดเหตุตนได้ขับรถส่วนตัวพื่อที่จะไปถ่ายทำละครที่จ.ระยอง แต่ยืนยันว่าใม่ได้ขับรถเร็วแต่อย่างใด...“ความเร็วก็ประมาณ 80 ครับ เพราะแถวนั้นเขตชุมชน เราก็ขับตามเลนของเราปกติ พอถึงจุดเกิดเหตุอยู่ดีๆ ก็มีรถของคู่กรณีขับมาในระยะกะะชั้นชิดมากซึ่งไม่สามารถหลบได้ ผมอยู่เลนของผมซึ่งถนนมันเป็นสองเลนไปทางเดียวกันแต่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรเขามายังไงก็ไม่ทันสังเกต ผมเบรกไม่ทันครับก็เลยชน”
“พอชนเสร็จปั๊บก็รีบลงไปดูเขาเลย เราก็ไม่ได้หนี เพราะเป็นห่วงเขามาก ก็เลยให้ชาวบ้านแถวนั้นช่วยวอเรียกรถพยาบาลหน่อยได้ไหมครับพี่ ดีคนนั้นเขามีวิทยุสื่อสาร เขาก็วอเรียกรถมา ตอนนั้นก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติวิ่งเขามาดูกันมามุงดู แจ้งเสร็จรถพยาบาลก็มาซึ่งก็ใช้เวลาไม่เกิน5นาที คนเจ็บตอนนั้นเขายังมีสติอยู่ครับ ไม่ได้สลบ”
เจ้าตัวลั่นพร้อมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทำเอาตัวเองไม่กล้าขับรถอีกเลย
“เราก็เต็มที่อยู่แล้ว เขาจะได้อุ่นใจว่าเราจะดูแลเขา พอไปถึงโรงพยาบาลก็ให้ทีมงานไปกดเงินให้เขาก่อน เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก็ให้เขาไปทีแรกเลย 1 หมื่นบาท หลังจากนั้นเรื่องของค่าเสียหายมอเตอร์ไซค์ก็ให้ประกันจัดการเพราะผมมีประกันชั้น1อยู่แล้ว เรื่องของคดีก็ให้ตำรวจดำเนินตามขั้นตอนทุกอย่าง”
“ถามว่าคนเจ็บเรียกร้องอะไรไหม ก็คือด้วยความที่เราแสดงตนตั้งแต่แรกเขาก็ดีใจ เขาพูดกับผมว่าดีว่าผมไม่ทิ้งเขา เขาพูดแบบนี้เราก็ชื่นใจ ตัวผมไม่เป็นอะไรแต่ผมรู้สึกเสียใจ ผมไม่ได้ห่วงรถนะช่างมันเพราะมันซ่อมได้แต่คนนี่สิ ซึ่งจิตใจผมไปอยู่ตาตุ่มแล้วเพราะกลัวว่าเขาจะเป็นอะไร ผมไม่ได้ขับเร็วมากมันสุดวิสัยเราเบรกไม่ทันจริงๆก็อยากให้ทุกคนเข้าใจไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่ดูแล”
“ตอนนี้ผมไม่กล้าขับรถเลยนะยิ่งออกต่างจังหวัด ผมก็รู้สึกว่าแม้เราระวังก็ยังเจอ ผมขอไม่ขับรถตอนนี้ แต่ไมได้กลัวนะแต่ผมมีเรื่องให้คิดเยอะ คุณแม่ก็เป็นห่วงทางนั้นด้วยตอนนี้คุณแม่ก็ดูแลจัดการให้ผมถือว่าฟาดเคราะห์ไปถึงผมไม่ได้เจ็บแต่ก็มีคนได้รับบาดเจ็บ ผมเสียใจจริงๆ อยากให้ทุกคนระมัดระวังในการขับรถด้วยอยากให้มีสติครับ”
หลังซิ่งรถเบนซ์เพื่อรีบไปถ่ายละครกระทั่งไปเสยท้ายของรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจังจนขาดสองท่อนเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่ทราบชื่อต่อมาภายหลังว่า นายอภิวัฒน์ ควรหาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดในวันวาน ทางด้านของนักแสดงหนุ่ม “ณัฎฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ก็ได้ออกมาแถลงข่าวถึงเรื่องนี้แล้วโดยลั่นจะยอมรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด
โดยนักร้องหนุ่มได้เล่าให้ฟังถึงรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นว่า วันเกิดเหตุตนได้ขับรถส่วนตัวพื่อที่จะไปถ่ายทำละครที่จ.ระยอง แต่ยืนยันว่าใม่ได้ขับรถเร็วแต่อย่างใด...“ความเร็วก็ประมาณ 80 ครับ เพราะแถวนั้นเขตชุมชน เราก็ขับตามเลนของเราปกติ พอถึงจุดเกิดเหตุอยู่ดีๆ ก็มีรถของคู่กรณีขับมาในระยะกะะชั้นชิดมากซึ่งไม่สามารถหลบได้ ผมอยู่เลนของผมซึ่งถนนมันเป็นสองเลนไปทางเดียวกันแต่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรเขามายังไงก็ไม่ทันสังเกต ผมเบรกไม่ทันครับก็เลยชน”
“พอชนเสร็จปั๊บก็รีบลงไปดูเขาเลย เราก็ไม่ได้หนี เพราะเป็นห่วงเขามาก ก็เลยให้ชาวบ้านแถวนั้นช่วยวอเรียกรถพยาบาลหน่อยได้ไหมครับพี่ ดีคนนั้นเขามีวิทยุสื่อสาร เขาก็วอเรียกรถมา ตอนนั้นก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติวิ่งเขามาดูกันมามุงดู แจ้งเสร็จรถพยาบาลก็มาซึ่งก็ใช้เวลาไม่เกิน5นาที คนเจ็บตอนนั้นเขายังมีสติอยู่ครับ ไม่ได้สลบ”
เจ้าตัวลั่นพร้อมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทำเอาตัวเองไม่กล้าขับรถอีกเลย
“เราก็เต็มที่อยู่แล้ว เขาจะได้อุ่นใจว่าเราจะดูแลเขา พอไปถึงโรงพยาบาลก็ให้ทีมงานไปกดเงินให้เขาก่อน เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก็ให้เขาไปทีแรกเลย 1 หมื่นบาท หลังจากนั้นเรื่องของค่าเสียหายมอเตอร์ไซค์ก็ให้ประกันจัดการเพราะผมมีประกันชั้น1อยู่แล้ว เรื่องของคดีก็ให้ตำรวจดำเนินตามขั้นตอนทุกอย่าง”
“ถามว่าคนเจ็บเรียกร้องอะไรไหม ก็คือด้วยความที่เราแสดงตนตั้งแต่แรกเขาก็ดีใจ เขาพูดกับผมว่าดีว่าผมไม่ทิ้งเขา เขาพูดแบบนี้เราก็ชื่นใจ ตัวผมไม่เป็นอะไรแต่ผมรู้สึกเสียใจ ผมไม่ได้ห่วงรถนะช่างมันเพราะมันซ่อมได้แต่คนนี่สิ ซึ่งจิตใจผมไปอยู่ตาตุ่มแล้วเพราะกลัวว่าเขาจะเป็นอะไร ผมไม่ได้ขับเร็วมากมันสุดวิสัยเราเบรกไม่ทันจริงๆก็อยากให้ทุกคนเข้าใจไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่ดูแล”
“ตอนนี้ผมไม่กล้าขับรถเลยนะยิ่งออกต่างจังหวัด ผมก็รู้สึกว่าแม้เราระวังก็ยังเจอ ผมขอไม่ขับรถตอนนี้ แต่ไมได้กลัวนะแต่ผมมีเรื่องให้คิดเยอะ คุณแม่ก็เป็นห่วงทางนั้นด้วยตอนนี้คุณแม่ก็ดูแลจัดการให้ผมถือว่าฟาดเคราะห์ไปถึงผมไม่ได้เจ็บแต่ก็มีคนได้รับบาดเจ็บ ผมเสียใจจริงๆ อยากให้ทุกคนระมัดระวังในการขับรถด้วยอยากให้มีสติครับ”
