พ่อแม่ทหารบุรีรัมย์เหยื่อม็อบ “นปช.” ร้องคดีไม่คืบ-จี้ลากคอมือยิง ผู้บงการมาดำเนินคดี

บุรีรัมย์ - พ่อแม่ “พลทหาร” กล้าบุรีรัมย์ถูกยิงศีรษะเสียชีวิต ขณะขับ จยย.ควบคุมรักษาความสงบการชุมนุมของกลุ่ม “นปช.” บนถนนวิภาวดีรังสิต กทม. เรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามตัวมือปืน และผู้บงการอยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดโดยเร็ว พร้อมชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กระจ่าง ระบุผ่านมากว่า 1 ปียังคลุมเครือคดีไม่คืบ เผยยังเสียใจอาลัยถึงลูกชาย ความช่วยเหลือใดๆไม่อาจลบเลือนความสูญเสียเศร้าโศกไปได้

วันนี้ (28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัชชัย สาละ อายุ 52 ปี และนางประสบ สาละ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 6 บ.ละกอ ต.ดอนมนต์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พ่อและแม่ของ “พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ” ทหารกล้าสังกัด ร.9 พัน.2 จ.กาญจนบุรี ที่ถูกลอบยิงบริเวณศีรษะเสียชีวิตคาที่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ควบคุมรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง ขณะขับขี่จักรยานยนต์รักษาความสงบไปตามถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 เมษายาน 2553 ปีที่ผ่านมา ยังคงเศร้าเสียใจและอาลัยหาลูกชาย ถึงแม้เหตุการณ์จะผ่านไปนานกว่า 1 ปีแล้วก็ตาม

พร้อมทั้งได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ลูกชาย และให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เร่งติดตามตัวมือปืนที่ลั่นไกสังหารพลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ อย่างโหดเหี้ยม พร้อมผู้บงการหรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำรอยอีก ซึ่งจะสร้างความโศกเศร้าสะเทือนใจให้กับพ่อแม่และญาติพี่น้องครอบครัวอื่นๆ อย่างไม่สิ้นสุด และจากที่ผ่านจนถึงปัจจุบันคดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่ทราบว่ากลุ่มใดเป็นผู้ก่อเหตุ

นายธวัชชัย สาละ พ่อพลทหารณรงค์ฤทธิ์ยังได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ลูกชายไปอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร ใครเป็นคนสั่งการ ใครเป็นผู้ก่อเหตุยิงบุตรชาย ซึ่งจากการชี้แจ้งของเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่ผ่านมาไม่มีความชัดเจนยังคลุมเครือ จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายธวัชชัยยังกล่าวอีกว่า ส่วนรัฐบาลมีนโยบายที่จะช่วยเหลือเยี่ยวยาครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนั้น ตนไม่ขอเรียกร้องใดๆ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะพิจารณาช่วยเหลือเพราะถึงอย่างไรลูกชายของตนก็ได้เสียชีวิตไปแล้วไม่มีวันฟื้นคืนกลับ ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชุมนุมดังกล่าว และจนถึงขณะนี้ตนก็ยังมีความรู้สึกเสียใจ เพราะเป็นลูกชายลูกคนโต และเป็นคนดี อีกทั้งยังเป็นความหวังที่พึ่งของครอบครัว

ด้าน นางประสบ สาละ แม่พลทหารเหยื่อมือสังหารเหตุการณ์ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่า หลังลูกชายเสียชีวิตได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) มอบเงินเยียวยาจำนวน 500,000 บาท, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี 200,000 บาท และในนามพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีก 50,000 บาท นอกจากนั้นได้รับเงินบริจาคจากหน่วยงานต่างๆ และจังหวัดบุรีรัมย์ มอบเงินให้อีกส่วนหนึ่ง

นางประสบกล่าวอีกว่า ส่วนตนและสามีได้รับเงินช่วยเหลือเป็นเงินเดือนไปจนตลอดชีวิตเดือนละ 6,300 บาท และ น.ส.กัญสุดา สาละ ลูกสาวคนเล็กได้รับทุนการศึกษาเรียนต่อพยาบาลที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กรุงเทพฯ เดือนละ 10,000 บาท เรียนจบแล้วทางกองทัพบกรับปากว่าจะให้บรรจุเป็นพยาบาลของโรงพยาบาลในหน่วยงานทหารทันที

ส่วน นายณัฎฐ์ สาละ ลูกชายคนกลาง 1 ใน 3 คน ศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ ระดับ ปวส.2 ไม่ได้รับความช่วยเหลือแต่อย่างใด เพียงรับปากว่าจะหางานให้ทำเมื่อเรียบจบเท่านั้น

“การช่วยเหลือใดๆ ก็ไม่สามารถที่จะลบเลือนความสูญเสียเศร้าโศกของครอบครัวเราไปได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เพราะเหตุการณ์ได้ผ่านไปนานกว่าหนึ่งปีแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าเหตุการณ์ที่ถูกลอบยิงของลูกชายเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ จึงฝากให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยเร็วและเด็ดขาดด้วย” นางประสบกล่าวด้วยความอาลัยถึงลูกชาย