ออกหมายจับ ด.ต.ฆ่าเผานั่งยาง ผช.พยาบาลกันตัง

ตรัง - ตร.ตรังออกหมายจับ ด.ต.ก่อหตุยิงแฟนสาวผู้ช่วยพยาบาล รพ.กันตัง ก่อนเผานั่งยางทำลายหลักฐานอย่างโหดเหี้ยมเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เหตุหึงหวงที่ฝ่ายหญิงตีจากไปมีชายคนใหม่

จากกรณีที่ น.ส.วิชุดา ทองเสน่ห์ หรือปิ๊ก อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 1 ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาลกันตัง จ.ตรัง ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2554 ที่ผ่านมา และทางครอบครัวได้แจ้งคนหายไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.กันตัง กระทั่งต่อมาทางตำรวจสืบทราบว่า น.ส.วิชุดาน่าจะเสียชีวิตแล้ว และมีตำรวจนอกพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

เจ้าหน้าที่จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐาน จนสืบทราบว่าตำรวจนายดังกล่าว คือ ด.ต.พยัคฆ์ อุนทรีจันทร์ อายุ 45 ปี ผบ.หมู่ฝ่ายปกครองและการฝึก ซึ่งมีหน้าที่ในการฝึกนักเรียนและผู้ที่เข้ารับการอบรม ประจำศูนย์ฝึกอบรมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเป็นผู้ใช้อาวุธปืนพกประจำกาย ขนาด 9 มม. สังหาร น.ส.วิชุดา และใช้ยางล้อรถยนต์เผาจนเสียชีวิต ที่บริเวณภายในสวนยางพาราที่ถูกไถดัน ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 02.30 น. วานนี้ (23 ส.ค.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง ได้นำกำลังไปควบคุมนำตัวนายมุตเหล็บ หลีหมาด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 242 หมู่ 7 ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พยานปากเอกในคดีฆ่าผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลกันตัง ที่หายตัวไปดังกล่าว มาสอบปากคำที่ห้องสืบสวน ภ.จว.ตรัง

โดย นายมุตเหล็บให้การว่า ในวันเกิดเหตุ ด.ต.พยัคฆ์ได้โทรศัพท์มาหาตน โดยบอกว่ามีปัญหาส่วนตัวกับแฟนสาวผู้ตายเรื่องที่ผู้ตายมีชู้ จึงต้องการจะสั่งสอนให้ผู้ตายกลับตัวกลับใจ เมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวตนจึงไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ ด.ต.พยัคฆ์ยังโทร.มารบเร้าขอความช่วยเหลือหลายรอบ และยังขับขี่รถยนต์อีซูซุ สปอร์ตไรเดอร์ สีบอรนซ์ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน พาผู้ตายมาหาตนถึงขนำ พร้อมกับบังคับให้ตนหายางล้อรถยนต์ประมาณ 10 เส้น เพื่อเตรียมไปเผาผู้ตาย กระทั่งเมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ ด.ต.พยัคฆ์ก็ได้ฉุดกระชากลากถูผู้ตายซึ่งอยู่ในสภาพถูกจับมัดมือบังคับให้นั่งคุกเข่า และตะโกนเรียกตน ด้วยความกลัวว่าจะถูก ด.ต.พยัคฆ์ทำร้ายจึงได้นำยางล้อรถยนต์มาให้ โดยระหว่างนั้นตนเห็น ด.ต.พยัคฆ์ใช้อาวุธปืนพกเล็งไปที่ศีรษะ แล้วยิงผู้ตายจำนวน 1 นัด จนล้มฟุบลงกับพื้นและเสียชีวิตดังกล่าว

จากนั้น ด.ต.พยัคฆ์ได้นำยางล้อรถยนต์มาวางทับร่างของผู้ตาย ก่อนใช้น้ำมันจุดไฟเผา ทั้งนี้ ระหว่างที่จุดไฟเผา ด.ต.พยัคฆ์ได้ชวนตนและเพื่อนกลับมานั่งรอที่ขนำ จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง จึงย้อนกลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้ง เมื่อพบว่าไฟได้เผาร่างของผู้ตายจนไม่เหลือร่องรอยหลักฐานแล้วจึงได้แยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาสอบปากคำ และกันให้เป็นพยานดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวทางตำรวจทีมชุดสืบสวน สภ.กันตัง ได้ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง และประสานขอกำลังไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ โดยใช้วิธีสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ในการหาพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องมานานร่วมเดือนเศษ จนสืบทราบว่า นายมุตเหล็บ และนายบ่าว (นามสมมติ) มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว จึงได้ติดตามตัวมาสอบสวน และทั้งสองได้ให้การตรงกันว่าผู้ที่ลงมือสังหารผู้ตาย คือ ด.ต.พยัคฆ์ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของผู้ตาย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการลาพักร้อน และยังไม่ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ ซึ่ง ด.ต.พยัคฆ์ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยอมรับว่ารู้จักและคบหาผู้ตายในสมัยที่ยังเรียนอยู่วิทยาลัยสาธารณสุข จ.ยะลา กระทั่งเมื่อผู้ตายเรียนจบและกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลกันตังก็ยังติดต่อกัน แต่เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ด.ต.พยัคฆ์อ้างว่าผู้ตายได้ขอบอกเลิกเพราะมีแฟนใหม่

จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้ตายได้นัดเจอกับ ด.ต.พยัคฆ์ ที่ห้างสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ในเขตเทศบาลนครตรัง โดยได้นำจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน มาจอดที่ห้างดังกล่าว และขึ้นรถยนต์ไปพร้อมกับ ด.ต.พยัคฆ์ เพื่อไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารเขาพับผ้า บนเทือกเขาบรรทัด รอยต่อระหว่าง จ.ตรัง กับ จ.พัทลุง จากนั้นทั้งคู่ได้พากันไปที่ศาลาทวดหลักเขต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนั้นเพื่อถอนคำสาบานที่จะไม่แยกจากกัน และ ด.ต.พยัคฆ์อ้างว่าได้กลับมาส่งผู้ตายที่ห้างสิริบรรณ และต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับ กระทั่งมาทราบภายหลังว่าผู้ตายได้หายตัวไปดังกล่าว

นอกจากนี้ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง ยังเปิดเผยถึงสาเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้จับกุม ด.ต.พยัคฆ์ ในตอนแรกเนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานพร้อม และเกรงว่าจะถูกฟ้องร้องกลับได้ แต่ล่าสุดทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้ออกหมายจับ ด.ต.พยัคฆ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ส่วนนายมุตเหล็บ และนายบ่าว ได้ให้การเป็นประโยชน์จนสาวไปถึงผู้ที่ก่อเหตุได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกันตัวไว้เป็นพยาน สำหรับสาเหตุที่ ด.ต.พยัคฆ์ ต้องลงมือสังหารแฟนสาวของตนเองนั้น เนื่องจากผู้ตายพยายามตีตัวออกห่างไปคบกับคนอื่น

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ทางพ่อแม่ของ น.ส.วิชุดาได้เดินทางไปทำพิธีรับกระดูก และอันเชิญดวงวิญญาณบุตรสาวตัวเองกลับมาที่บ้านเกิดใน จ.ตรัง หลังจากใช้เวลาในการค้นหานานกว่า 2 เดือน