xs
xsm
sm
md
lg

เคทีซีเพิ่มช่องทางเที่ยวรูดปรืด “ออนไลน์-มือถือ”ทะลุ1.5พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บัตรท่องเที่ยว เคทีซี จัดเต็ม  ปูพรม 3 แผนปีหน้า หนุน คนใช้จ่ายบัตรเพื่อการท่องเที่ยว  เปิดช่องทางรูดปรืดผ่านระบบออนไลน์-สมาร์ทโฟน  เจาะไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ กระตุ้นกำลังซื้อโต 3 เท่าตัวเป็น 1,500 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมเฉพาะรายได้จากการรูดบัตรเพื่อท่องเที่ยวขอโกยกว่า  1 หมื่นล้านบาท

นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ   บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด หรือ เคทีซี  เปิดเผยว่า  แผนการทำงานปีหน้า บริษัท ตั้งเป้ามียอดใช้จ่ายผ่านบัตรของ เคทีซี ในหมวดท่องเที่ยวสันทนา เติบโต  10-15%  จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 1 หมื่นล้านบาท  และมีส่วนแบ่ง 10% จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของเคทีซีในทุกๆด้าน

ซึ่งมีผู้ถือบัตรรวม 1.4 ล้านคน  โดยกลยุทธ์การทำงาน ตามที่วางแผนไว้จะไม่เน้นเพิ่มจำนวนผู้ถือบัตร แต่จะเน้นให้ลูกค้ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรที่สูงขึ้น โดยตั้งงบการตลาดไว้ 30 ล้านบาท ดำเนินงานได้ 3 แผนหลัก ประกอบด้วย การทำโปรโมชั่นรวมกับร้านอาหารและสปาในโรงแรม ระดับ 3-5ดาว ซึ่งขณะนี้มี โรงแรมเข้าร่วมแล้วกว่า 150 แห่ง ในกรุงเทพฯ และ
จังหวัดท่องเที่ยวตามหัวเมืองใหญ่  เช่น ภูเก็ต พัทยา หัวหิน  โดยให้ส่วนลดแก่สมาชิกผู้ถือบัตรสูงสุดถึง 50%  พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการใช้บัตรต่อเนื่องตลอดปี จากที่ผ่านมาจะทำกิจกรรมเพียงช่วงสั้น   
               การเข้าไปสนับสนุนงานส่งเสริมการขายด้านท่องเที่ยว  เทรดแฟร์ และ คอนซูเมอร์แฟร์ ให้มากขึ้น โดยตลอดปีต้องมีอย่างน้อย 4 งาน จากปรกติจะสนับสนุนเพียงปีละ 2 งาน  คือ เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ของ ทีทีเอเอ    ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายช่วงต้นปี จะทำได้ถึง 300 ล้านบาท ช่วงเดือน ก.พ. ที่มีการจัดงาน ส่วน เดือน ส.ค. คาดว่าจะมียอดใช้จ่ายในงานไม่ต่ำกว่า  80 ล้านบาท  
มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยในงาน 45,000 บาท  เพราะเป็นการซื้อแพกเกจทัวร์ให้กับคนในครอบครัว                   
***รูดปรืดออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน*****
              แผนสุดท้าย เป็นการเพิ่มรายได้จากการให้บริการสินค้าท่องเที่ยวและบริการช่องทางออนไลน์ เคทีซี เวิลด์ ทราเวล เซอร์วิส ซึ่งปี 2554ช่องทางนี้สร้างรายได้ให้ ราว 500 ล้านบาท ตั้งเป้าปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว หรือ 1,500ล้านบาท   โดยล่าสุด บริษัท มีการลงทุนซอฟแวร์ ปรับระบบไอทีทั้งหมด เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า คาดว่าจะเริ่มบริการได้ตั้งแต่ ก.พ.55 เป็นต้นไป  
โดยบริการจะมี Booking Engine เว็บไซด์เคทีซี เวิลด์ รองรับการทำธุรกรรมจองตั๋วเครื่องบินผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที  โดยบริษัทได้จัดทำเป็นแอพพลิเคชั่น สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์รุ่นสมาร์ทโฟนด้วย  
                อย่างไรก็ตาม  เพื่อสนับสนุนให้มีการเติบโต บริษัท ยังได้เพิ่ม  จำนวนพันธมิตร ร่วมขายผ่านเคทีซี เวิลด์ ให้ครบอคลุมทุกตลาด   โดยเฉพาะสายการบิน  จะขยายฐานสู่สายการบินที่ให้บริการลูกค้าตลาดบน จากปีก่อนมีเพียง 4 ราย วิธีการจะจัดโปรโมชั่นทำแพกเกจทัวร์ร่วมกัน ปูพรมทุกการโปรโมตทุกกลยุทธ์ เช่น การออกคูปองดิจิตัล สำหรับให้ลูกค้าใช้บริการ
               
“แม้บริษัท จะมีการเติบโตปีละ 10-15% แต่ยังเป็นตัวเลขชะลอตัว จากในอดีต 3 ปีก่อนหน้า ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ  40-50%  ทำให้ บริษัท ต้องเร่งการทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยขณะนี้ผู้ถือบัตรท่องเที่ยวของเคทีซี มีการใช้จ่าย เคทีซี เวิลด์ คอมมิวนิตี้ มีอยู่ราว 42,000 คน  ลูกค้าฐานใหญ่สุด อยู่ในช่วงอายุ 30-50 ปี รายได้ไม่เกิน เดือนละ  4- 6 หมื่นบาท  
เพราะพฤติกรรมคนกลุ่มนี้ชื่นชอบการท่องเที่ยวพักผ่อน หลังจากการทำงานหนัก โดยมีความคิดทันสมัย  มีศักยภาพในการผ่อนชำระ ทำให้เห็นว่า การทำ ตลาดออนไลน์ จะเพิ่มการจับจ่ายมากขึ้น
สถิติการรูดบัตรเพื่อท่องเที่ยวของ เคทีซี  เป็น โรงแรม 37% คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 6,000 บาท/ครั้ง สายการบิน 35% เฉลี่ยใช้จ่าย 6,000 บาท/ครั้ง เอเยนต์ทัวร์ 20-30% และอื่นๆ อาทิ บริการรถเช่า ทั้งนี้ในการจองตั๋วเครื่องบินนั้น กว่า 80-85% เป็นการซื้อตั๋วสายการบินราคาประหยัด  ลูกค้าเคทีซี มี 3 กลุ่มหลัก  คือ   1.กลุ่มเดินทางในประเทศ 70% 2.กลุ่มเดินทางทั้งในและต่างประเทศ และ
3.กลุ่มเดินทางต่างประเทศเท่านั้นราว 7%  พฤติกรรมการใช้จ่ายแบ่งได้ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางถึง-บน ใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 11,000 บาท โดยจะเดินทางท่องเที่ยว 2 ครั้งต่อปี   2.กลุ่มมีรายได้ต่ำ ใช้จ่ายเฉลี่ย 6,500 บาทต่อเดือน และ ส่วนใหญ่ใช้จ่ายเพื่อการเที่ยวในประเทศ และ 3.กลุ่มรายได้สูง ใช้จ่ายเฉลี่ย 23,000 บาทต่อเดือน เดินทางได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศเฉลี่ย 2
ครั้งต่อปีขึ้นไป  
สำหรับปีนี้ 3 ไตรมาสที่ผ่านมา  มีตัวเลขใช้จ่ายบัตรเพื่อการท่องเที่ยวรวมแล้ว 7,500 ล้านบาท เติบโต  14%  แต่เมื่องเกิดสถานการณ์น้ำท่วม คาดว่าถึงสิ้นปี จะเติบโตรวม  105 จากที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตได้ถึง 15%   โดยเดือน ต.ค.-พ.ย.  ซึ่งน้ำท่วมยอดใช้จ่ายหายไปถึงราว 200 ล้านบาท หรือราว 30% แต่ในเดือน ธ.ค.เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นกลับมาแล้ว 30%
เริ่มเห็นการใช้จ่ายบัตรเพื่อการจองซื้อทัวร์ท่องเที่ยวไป   ฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มไต้องทำวีซ่า   คาดว่า ราว มี.ค.-เม.ย.55 จะฟื้นตัวเป็นปรกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น