xs
xsm
sm
md
lg

ก.คมนาคมเร่งผุดรถไฟทางคู่โคราช-ขอนแก่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางชนินนาถ เก้าสำราญ
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กระทรวงคมนาคม เร่งเดินหน้าโครงการสร้างรถไฟทางคู่ สายจิระโคราช-ขอนแก่น 185 กม.มูลค่า 2.5 หมื่นล้าน ล่าสุด เปิดรับฟังความเห็นชาวย่าโมรอบที่ 2 เผย ต้องปรับรูปแบบรางใหม่ รับมือน้ำท่วมใหญ่ คาด ก่อสร้างได้ภายใน 3 ปีนี้ ขณะชาวบ้านห่วงกระทบวิถีชีวิตชุมชน

วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายพยัคพันธุ์ โพธิ์แก้ว ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 “โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการลอจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน) ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น” โดยมี นางชนินนาถ เก้าสำราญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม (คค.) ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน

ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการ ผลการศึกษาความเหมาะสม และแนวคิดการออกแบบเบื้องต้นระบบรถไฟทางคู่ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษาในพื้นที่ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนประชาชนในพื้น จ.นครราชสีมา เข้าร่วมการสัมมนากว่า 200 คน

นางชนินนาถ เก้าสำราญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร กล่าวว่า โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน) ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มีแนวเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด 10 อำเภอ ได้แก่ จ.นครราชสีมา (อ.เมือง อ.โนนสูง อ.คง อ.บัวใหญ่ อ.บัวลาย) และ จ.ขอนแก่น (อ.พล อ.โนนศิลา อ.บ้านไผ่ อ.แฮด อ.เมือง) มีสถานีรถไฟ 19 สถานี ที่หยุดรถ/ป้ายหยุดรถ 7 แห่ง รวมระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร

สำหรับการสัมมนาครั้งนี้ สนข.ได้นำเสนอแนวคิดการออกแบบระบบรถไฟทางคู่ รายละเอียดการออกแบบปรับปรุงทางตัดผ่านทางรถไฟ จำนวน 81 จุด ซึ่งมีอยู่ 4 รูปแบบ ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ ถนนยกระดับกลับรถรูปตัวยู ท่อเหลี่ยมลอดใต้ทางรถไฟ และการยกระดับรถไฟ รวมทั้งออกแบบให้มีรั้วกั้นตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ เพื่อเพิ่มความจุและความเร็วของขบวนรถไฟ ตลอดจนป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงและความสูญเสียที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอแนวคิดในการปรับปรุงอาคารสถานีใหม่ ให้มีความสวยงาม สะดวกสบาย โดยเน้นออกแบบ ตัวสถานีเป็นโถงสูง ช่วยกระจายความร้อน มีเอกลักษณ์ที่สื่อถึงสถาปัตยกรรมท้องถิ่นและวิถีการดำเนินชีวิตของชาวอีสาน ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศให้หลั่งไหลเข้ามาในภูมิภาคนี้ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคอีสานเป็นอย่างดี

นางชนินนาถ กล่าวอีกว่า ภายในงานได้มีการนำเสนอมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการฯ น้อยที่สุด เช่น มาตรการป้องกันปัญหาการแบ่งแยกชุมชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เกรงจะกระทบต่อวิถีชีวิตในชุมชน เสนอให้มีทางเชื่อมหรือทางลอดในระยะที่เหมาะสม และตรวจสอบการใช้งานของทางลอด ทางข้าม และสะพานลอยอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะประชาชนในเขต ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นห่วงเรื่องการเข้าออกของรถขนส่งค้า เนื่องจากมีการทำสถานีขนส่งสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ อาจทำให้ประชาชนในแถบนั้นได้รับผลกระทบ ซึ่งเรื่องนี้คณะทำงานได้รับไว้พิจารณา เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป

ส่วนมาตรการป้องกันปัญหาการระบายน้ำ ได้มีการเสนอให้มีการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำขนาดเล็ก การยกระดับสันรางให้พ้นระดับน้ำท่วม พร้อมทั้งขยายช่องสำหรับระบายน้ำ ซึ่งเรื่องนี้ทุกฝ่ายให้ความสนใจมาก เนื่องจากในปี 2553 จ.นครราชสีมาเกิดภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ ซึ่งคณะทำงานจะต้องนำข้อมูลระดับน้ำมาใช้ประกอบการออกแบบก่อสร้างรางรถไฟซึ่งอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพิ่มเติมเล็กน้อย

มาตรการป้องกันปัญหาด้านการคมนาคมขนส่ง เช่น ต้องการให้มีการประชาสัมพันธ์และปิดประกาศล่วงหน้า การกำหนดให้มีป้ายเตือน แผงกั้น กรวย แสงสว่าง ไฟกะพริบ ในแต่ละส่วนของพื้นที่ก่อสร้าง มาตรการป้องกันผลกระทบด้านเสียงและความสั่นสะเทือนจากการก่อสร้าง เช่น กำหนดให้การเจาะ การตอกเสาเข็ม การขุดผิวดิน เฉพาะในเวลากลางวัน การจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และมาตรการแก้ไขปัญหาการโยกย้ายและเวนคืน เช่น ประชาสัมพันธ์แนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านอพยพ และขั้นตอนการชดเชยทรัพย์สินต่อประชาชนที่รับผลกระทบ การสำรวจรายละเอียดทรัพย์สินที่จะต้องรื้อย้ายและจ่ายค่าชดเชยอย่างละเอียด ดำเนินการชดเชยทรัพย์สินตลอดแนวเส้นทางโครงการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม

นางชนินนาถ กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น รวมระยะทาง 185 กม.นั้น คาดว่า จะใช้งบประมาณกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท โดยหลังรับฟังความเห็นครั้งนี้แล้ว คณะทำงานจะนำไปสรุปและเปิดรับฟังความเห็นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดในช่วงปลายเดือน ก.พ. 55 อีกครั้งก่อนสรุปเพื่อส่งให้กระทรวงคมนาคมออกแบบก่อสร้างก่อนเสนอรัฐบาลอนุมัติงบประมาณก่อสร้างต่อไปความว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนี้

ทั้งนี้ หากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น แล้วเสร็จ ในปี 2558 จะช่วยเพิ่มความจุของทางจาก 80 ขบวนต่อวัน เป็น 200 ขบวนต่อวัน และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าจาก 4 แสนตัน เป็น 4 ล้านตันต่อปี รวมทั้งเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจากปีละ 2 ล้านคนเป็น 10 ล้านคน ซึ่งเป็นการพลิกโฉมการคมนาคมทางรางในสายอีสาน ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคมขนส่ง-ลอจิสติกส์ และการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาวอีสานได้อย่างยั่งยืน
กำลังโหลดความคิดเห็น