โฆษก ปชป.วอนรัฐฯ ทบทวนงบปี 55 ให้สอดคล้องสถานการณ์ กระจายงบฟื้นฟูน้ำท่วมตามกระทรวงเพื่อตรวจสอบได้ เสนอ 5 ข้อแก้ปัญหา เน้นพูดความจริง ดูแลผู้อพยพให้ทั่วถึง ขจัดเหลือบหากินกับเงินบริจาค-ถุงยังชีพจริงจัง ประกาศฉุกเฉินคุม ส.ส.เพื่อไทย เพราะเป็นตัวสร้างปัญหา ชี้นายกฯ จะร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนก็ไม่ว่า ถ้าแก้ปัญหาได้ เรียกหาความเป็นลูกผู้ชายรอบตัว “ยิ่งลักษณ์” อย่าใช้ความอ่อนแอของนายกฯ มาลบล้างความล้มเหลว
วันที่ 13 พ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจต่อสภาน้อยมาก ข้อเสนอต่างๆ สมาชิกฝ่ายค้านไม่มีการตอบรับ อาศัยพวกมากลากงบผ่านไป ซึ่งขอเสนอไปยังรัฐบาลให้ทบทวนตัวเลขงบประมาณให้สอดคล้องสภาวะการณ์ เพราะเห็นว่าเป็นการจัดงบที่ไม่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ตั้งอยู่สมมติฐานผิดพลาด เช่น เพิ่มรายรับ 8 หมื่นล้านบาท ทั้งที่จีดีพีหลังน้ำท่วมลดลงเหลือร้อยละ2 และยังเพิ่มรายจ่ายอีก 5 หมื่นล้านบาท 2.ยกเลิกโครงการประชานิยมที่ไม่จำเป็นตอบโจทย์การแก้ปัญหา เพราะเห็นชัดว่าไม่มีการจัดโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟู มีแต่คงนโยบายประชานิยม ใช้เงินไปโดยไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะการลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 23 ทำให้รัฐขาดรายได้ 5 หมื่นล้านบาท เป็นการลดภาษีให้บริษัทยักษ์ใหญ่ได้ประโยนช์ เช่น บริษัทอสังหาริมทรัพย์ บริษัทโทรคมนาคม ค้าปลีกขนาดใหญ่ แต่ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน น่าเสียใจต่อการผลาญเงินงบประมาณมากขึ้น ขณะเดียวกันกลับมีการตัดงบอนาคตของชาติ เช่น กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่อาจจะเพียงพอภายในปีหน้าเท่านั้น งบโครงการหลักสุขภาพทั่วหน้าเหลือหัวละ 2,600 บาท รัฐบาลต้องทบทวนความจำเป็นการจัดใช้งบ ลำดับความสำคัญที่ถูกต้องไม่ควรเอาเงินมาละเลงในประชานิยม และเพิ่มภาระให้ประชาชนในการจัดเก็บภาษี
นอกจากนี้ ในส่วนของงบกลาง 1.2 แสนล้านบาท รัฐบาลน่าจะใจกว้างทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนอย่าเอาเงินไปกระจุกที่นายกฯ เพียงคนเดียว เรียกร้องให้เปิดโอกาสให้กรรมาธิการได้แปรงบประมาณคืนให้แต่กระทรวง ทบวง กรม เพื่อให้ตั้งรายละเอียดขึ้นมาตรวจสอบได้ อย่าให้มีข้อครหาใช้โอกาสนี้จัดงบประมาณเพื่อโกงกิน เหมือนกรณีถุงยังชีพอีก จึงขอให้รัฐบาลกลับไปพิจารณา เพื่อการใช้งบประมาณเป็นประโยชน์แก่ประเทศมากที่สุด
นายชวนนท์ยังเสนอการแก้ไขปัญหาอุทกภัย 5 ข้อ คือ 1.เมื่อนายกฯ ได้รับทราบข้อมูลเพิ่มแล้วสิ่งแรกที่อยากให้เริ่มทำคือขอให้เริ่มพูดความจริงกับประชาชน อย่าพยายามบิดเบือนข้อมูลและอย่าเสียเวลามาตอบโต้กับประเด็นการเมือง เอาเวลาไปแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างเต็มที่ 2.ขอให้รัฐบาลดูแลศูนย์อพยพ ให้ความเป็นอยู่มีกินอย่างเพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการเสนอเรื่องนี้แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างจริงจัง ยังมีผู้อพยพหลายคนขาดแคลนอาหาร นม แพมเพอร์ส ตามศูนย์อพยพหลายจุด ต้องดูแลการคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ สินค้าบางอย่างไม่จำเป็นต้องนำเข้า แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะทำให้เกิดภาวะการแตกตื่นโกลาหล ซ้ำเติมด้วยการที่ทุกคนเข้าไปกักตุนสินค้า ซึ่งต้องควบคุมให้ได้ ไม่ให้ประชาชนแตกตื่น
3.ปัญหาสิ่งของบริจาคที่คณะกรรมการตรวจสอบชุดนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ออกมาพูดว่าตรวจสอบแล้วไม่มีข้อมูลถือเป็นเรื่องตลก เพราะมีทุกอย่างอยู่ในมือแล้วเพียงเปิดถุงออกดู แล้วใช้เครื่องคิดเลขคำนวนก็ได้แล้ว แต่ก็ไม่ทำ อ้างว่าไม่ให้ข้อมูล เรือลำละ 2.5 แสนบาทเอาไปทำอะไร ทำไมราคาสูงก็ไม่มีคำตอบ ไม่อยากเห็นภาพของการเก็บกักของบริจาคอีก หวังว่านายกฯ จะเข้าไปแก้ไขส่วนนี้ให้มีการดูแล
“อยากเรียกร้องให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จัดการกับพวกเหลือบไร ที่ใช้ชื่อของท่านและกระทรวงทำมาหากิน ต้องรีบดำเนินการกับคนเหล่านี้อย่างเด็ดขาดเพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีให้กับตนเองด้วย”
4.การใช้อำนาจของนายกฯ ตาม พ.ร.บ.สาธารณภัย ม. 31 ต้องมีความชัดเจน แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์บุกรื้อคันกั้นน้ำ หรือทำลายประตูน้ำตามจุดต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะโทษประชาชนไม่ได้ เพราะจำเป็นต้องดิ้นรนเอาตัวรอดเมื่อรัฐบาลพึ่งไม่ได้ อยากให้รัฐบาลใช้อำนาจให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน นายกฯ จะไม่ใช้กฎหมายฉุกเฉินเราไม่ว่า แต่ต้องควบคุมสถานการณ์ไปในทิศทางที่ควรจะเป็น
“ที่สำคัญต้องควบคุมดูแล ส.ส.ในส่วนพรรครัฐบาลเอง ฝ่ายค้านไม่เคยถูกข้อหาพาชาวบ้านบุกพังคันกั้นน้ำ หรือพังประตูน้ำ มีแต่พวกท่านเท่านั้น พื้นที่ทางทิศตะวันออกมีแต่ ส.ส.เพื่อไทยและปริมาณน้ำไหลไปน้อยมาก ทำให้หลายพื้นที่ใน กทม.ต้องท่วมหนักจากเหตุการณ์ดังกล่าว อยากให้นายกฯ หันหลังกลับไปดูพรรคพวกของท่าน จะประกาศภาวะฉุกเฉินในพรรคเพื่อไทยได้ก็จะเป็นการดี เพราะคนสร้างปัญหาที่แท้จริงคือคนใกล้ตัวท่านทั้งนั้น”
5.ขณะนี้เหมือนรัฐบาลพยายามให้ประชาชนฝันหวานเรื่องตัวเลขเงินต่างๆ แต่พวกเขาไม่ได้ยินเพราะหูจมน้ำอยู่ รัฐบาลอย่าใช้เวลาคิดแต่เรื่องกู้เงิน ควรไปดูแลประชาชนที่จมน้ำขณะนี้ให้ทั่วถึงดีกว่า ต้องประกาศมาตรการเยียวยาให้ชัดเจนว่าจะให้เงินชดเชยจำนวนเท่าไหร่ เลิกงบประมาณส่วนกลางจ่ายให้แก่บางพื้นที่ได้รับความเสียหายมากเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ไปเลย จะทำให้แรงกดดันลดลง และการเข้าไปเจรจากับมวลชนต่างๆ จะพูดกันง่ายขึ้น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ฝ่ายรัฐาลพยายามกล่าวหาฝ่ายค้านว่าหยิบยกเรื่องนายกฯ ร้องไห้โจมตีทางการเมือง ขอยืนยันว่าเราไม่ได้ใส่ใจเลย ถ้านายกฯ ร้องไห้แล้วประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหา มีความเป็นอยู่ดีขึ้น เราก็ยินดีให้ท่านร้องทั้งวันทั้งคืน เพียงแต่อยากเห็นความเข้มแข็งในการแก้ปัญหานำพาประเทศฝ่าวิกฤตไปได้ ไม่มีคำพูดจิกกัดอะไร มีแต่คนของฝ่ายรัฐบาลที่พยายามพูดกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ฆ่าประชาชน 91 ศพ โดยไม่ร้องไห้เสียน้ำตาสักหยด ซึ่งทั้งที่ส่วนใหญ่ 91 ชีวิตความจริงไม่ใช่พวกท่าน แต่เป็นประชาชนบริสุทธิ์ที่โดนหลอกมา และทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ และนายอภิสิทธิ์เคยยอมรับว่าเสียน้ำตาให้กับประชาชนที่บริสุทธิ์ แต่ไม่ยอมเสียน้ำตาให้แกนนำที่ใช้คนเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือต่อการเข้าสู่อำนาจรัฐ และนายอภิสิทธิ์เลือกที่จะเข้มแข็งและพาบ้านเมืองฝ่าวิกฤต ทั้งที่หลายคนแนะนำให้ยุบสภา เพราะคิดว่าอาจได้รับเลือกกลับมาอีกแต่นายอภิสิทธิ์ก็ไม่ทำ เลือกที่จะฝ่าไปให้ได้
“ฝ่ายค้านอยากเรียกร้องความเข้มแข็งจากนายกรัฐมนตรี และความเป็นลูกผู้ชายจากคนรอบตัวท่านว่าอย่าใช้ท่านมาเป็นเครื่องมือ เคยใช้มวลชนเป็นเครื่องมือในต่อสู้เข้าสู่อำนาจ และวันนี้กำลังใช้ความอ่อนแอของนายกฯ มาลบล้างความไร้ฝีมือในการบริหารประเทศของพวกท่าน” นายชวนนท์กล่าว