xs
xsm
sm
md
lg

เร่งฟื้นท่องเที่ยวอยุธยาจี้รัฐแก้ปัญหาเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ททท.ภาคกลาง จัดเต็ม เข็นทัพกิจกรรมฟื้นเมืองกรุงเก่าหลังน้ำลด ประเดิม 10 พ.ย. ด้าน สทท.จี้รัฐบาลแก้ปัญหาเงินเฟ้อ พบเป็นสาเหตุดันต้นทุนโรงแรมพุ่งเท่าตัว

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ได้กำหนดให้วันที่ 10 พ.ย.54 ซึ่งตรงกับเทศกาลวันลอยกระทง เป็นวัน คลีน อัพเดย์ ภายใต้แนวคิด “ วี แคร์ เลิฟอยุธยา” และช่วงกลางคืนจะจัดพิธี อาบน้ำเพ็ญขอขมาพระแม่คงคา และเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงเกือบเป็นปรกติในหลายพื้นที่แล้ว ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ เว็บไซต์ ท่องเที่ยวภาคกลาง ดอท คอม และ เฟสบุ๊คอยุธยา คาดหวังโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดคนไทยให้ฟื้นตัวได้เร็ว

“เรายกเลิกจัดงานลอยกระทงที่อยุธยา แต่เมื่อ น้ำลดลงแล้ว จึงคิด ใช้วันลอยกระทง เชิญชวนผู้มีจิดอาสา เข้ามาช่วยกันทำความสะอาดวัด และโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งอยุธยามีวัดที่ถูกน้ำท่วมรวม 505 แห่ง มีเพียง 3 แห่งที่ไม่ถูกน้ำท่วม คือ วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดพุทไธศวรรย์ และวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร

สำหรับตลาดต่างประเทศ ในวันที่ 15 พ.ย. 54 จะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกา มาท่องเที่ยวที่อยุธยา ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ 800 คน ที่จองแพกเกจทัวร์เดินทางมาเที่ยวอยุธยาช่วงเทศกาลวันลอยกระทง แต่ได้เปลี่ยนไปเที่ยวจังหวัดสุโขทัยทดแทน ซึ่งภาพของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ 200 คนที่กลับมาเที่ยวอยุธยาครั้งนี้ จะสร้างภาพลักษณ์ให้ชาวโลกทราบว่าอยุธยาเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว

นายสมชาย กล่าวอีกว่า ยังได้ร่วมกับผู้ประกอบการโรงแรมในอยุธยา ขายห้องพักราคาลดพิเศษมีจำนวนรวมกว่า 100 ห้อง ให้แก่ คนกรุงเทพฯและปทุมธานี ที่ต้องการอพยพหนีน้ำท่วม ได้แก่ กรุงศรีริเวอร์ และโรงแรม อโยธยา เป็นต้น และ ในวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งจะครบรอบ 20 ปี ที่ยูเนสโก้ให้อยุธยาเป็นเมืองมรดกโลก ทางจังหวัด จะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองใหญ่ ให้คนไทยและทั่วโลกได้รับรู้ส่วนคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เตรียมจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และท่องเที่ยวเชิงธรรมมะ

นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบายสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางควบคุมสถานการณ์เงินเฟ้อ อย่าให้เกิน 3.8 ซึ่งเป็นตัวเลขที่กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทย ไม่ควรเกินตัวเลขดังกล่าว

“จากที่กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเชขดัชนีผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม ว่ามีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 113.07 ปรับตัวสูงขึ้น 4.19 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลกระทบจากสถานการณืน้ำท่วม ในพื้นที่การเกษตรหลายแห่ง ประกอบกับการคมนาคมขนส่งไม่สะดวก ซึ่งหากรัฐบาลปล่ยอให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเช่นนี้ จะกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแน่นอน “

ทั้งนี้เพราะผลผลิตทางการเกษตรจะใช้นำมาปรุงอาหารให้แก่นักท่องเที่ยวและแขกที่เข้าพักโรงแรม ขณะที่ตัวเลขสินค้าหมวดอาหารปรับตัวสูงขึ้นแล้วกว่า 0.69% ผักสดปรับสูงขึ้น 15.24% อาหารสำเร็จรูปปรับสูงขึ้น 0.19% เป็นตัวเลขที่สูงมาก โดยดัชนีดัชนีหมวดราคาอาหารและเครื่องดื่มขณะนี้ได้ปรับสูงขึ้นถึง 8.84 แล้ว

นอกจากนั้นยังขอเสนอให้ รัฐขยายเวลามาตราการต่างๆที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศออกไป 3-6เดือน เช่น มาตราการยกเลิกการจัดเก็บภาษีน้ำมัน ที่จะหมดในเดือนธันวาคมนี้เพื่อให้ปรับสมดุลทางเศรษฐกิจและปล่อยให้เอกชนได้ปรับตัว.
กำลังโหลดความคิดเห็น