บุรีรัมย์ - แรงงานชาว จ.บุรีรัมย์ ที่หนีน้ำท่วมกลับภูมิลำเนา ออกตระเวนรับจ้างเกี่ยวข้าวหารายได้เลี้ยงครอบครัวหลังตกงานมานานกว่า 1 เดือน แม้ได้ค่าแรงเพียงวันละ 150 - 200 บาทน้อยกว่าค่าจ้างที่ได้รับกว่าเท่าตัว วอนรัฐบาลช่วยเหลือหางานรองรับ และชดเชยสิ่งของที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย
วันนี้ ( 10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงงานชาวบ้านตลาดโพธ์ ต.ตลาดโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่หนีน้ำท่วมกลับมาอยู่ภูมิลำเนา ได้ออกตระเวนออกรับจ้างเกี่ยวข้าวในเขตพื้นที่หมู่บ้าน และตำบลใกล้เคียง เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว หลังต้องตกงานจากวิกฤตน้ำท่วมโรงงานในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ทำให้ขาดรายได้มานานกว่า 1 เดือน ถึงแม้แต่ละวันจะได้ค่าแรงในการรับจ้างเกี่ยวข้าวเพียงวันละ 150 - 200 บาท น้อยกว่าค่าแรงที่เคยได้รับจากนายจ้างที่ทำงานโรงงานมากกว่า 1 เท่าตัว แต่ก็พอประทังชีวิตและเลี้ยงครอบครัวในช่วงที่ตกงานได้
จากผลกระทบดังกล่าว จึงร้องขอให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือชดเชยเยียวยาช่วงที่ขาดรายได้ และสิ่งของที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม พร้อมทั้งหางานรองรับให้กับแรงงานที่ตกงานได้ทำ เพราะยังไม่ทราบว่าหลังน้ำลดนายจ้าง จะยังรับกลับเข้าไปทำงานอีกหรือไม่
น.ส.น้ำอ้อย พลคำมาก อายุ 34 ปี แรงงาน บ.ตลาดโพธิ์ ต.ตลาดโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ บอกว่า หลังน้ำท่วมโรงงานได้เดินทางกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่และครอบครัวนานกว่า 1 เดือนแล้ว ทำให้ต้องขาดรายได้ ช่วงนี้จึงต้องออกตระเวนหารับจ้างเกี่ยวข้าว เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวในช่วงที่ตกงาน ถึงแม้จะได้ค่าจ้างเกี่ยวข้าวเพียงวันละ 150 - 200 บาท แต่ก็ถือโอกาสนี้ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว เพราะแต่ละปีจะกลับมาเยี่ยมบ้านเพียงช่วงเทศกาลปีละ 1 - 2 ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ตามกลับมาครั้งนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมว่าทางโรงงาน จะจ่ายเงินค่าจ้างที่เหลือหรือจะจ้างต่อหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือหางานรองรับให้ทำ หากนายจ้างไม่รับกลับเข้าทำงาน หรือหากสถานการณ์น้ำท่วมยังยืดเยื้อไปอีกหลายเดือน
ด้าน นางพิมพ์ลภัส วัฒนพรกุล อายุ 33 ปี แรงงานในหมู่บ้านเดียวกัน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโรงงานอุตสาหกรรมต้องเดินทางกลับมาอยู่ภูมิลำเนา ยอมรับว่า หลังเดินทางกลับมาบ้านต้องขาดรายได้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว ประกอบฐานะครอบครัวที่ยากจนพ่อแม่มีอาชีพทำนาช่วงนี้จึงไปช่วยพ่อแม่เกี่ยวข้าว บางวันต้องไปหารับจ้างเกี่ยวข้าวเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเพราะปกติทำงานอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะส่งเงินกลับมาบ้านทุกเดือน แต่ตอนนี้ตกงานขาดรายได้และยังไม่รู้ว่าทางนายจ้างยังจะรับกลับเข้าไปทำงานอีกหรือไม่
“จึงอยากร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือหางานทำให้หากนายจ้างไม่รับกลับเข้าทำงานหรือทั้งให้ช่วยเหลือชดเชยสิ่งของที่จมน้ำเสียหายเพราะน้ำได้ไหลเข้าท่วมโรงงานและที่พักอย่างรวดเร็วไม่สามารถขนย้ายสิ่งของออกมาได้ทัน” นางพิมพ์ลภัส กล่าว