นครปฐม - เมืองเจดีย์ใหญ่ เริ่มวุ่น “อ.พุทธมณฑล” เร่งขน 800 ชีวิตอพยพออกจากศูนย์ ม.มกุฏราชวิยาลัย ศาลายา หนีน้ำหลังเขื่อนแตก แต่ยังติดค้าง 500 เศษ ส่วน รพ.ศูนย์นครปฐม รับผู้ป่วยเต็มอัตรา 500 เตรียมพร้อมเตียงเสริม ขณะที่อาสาสมัครเข้าพื้นที่บางภาษี อ.บางเลน ขน 500 สัตว์เลี้ยงออกหนีน้ำวุ่น ส่วนมูลนิธิชัยพัฒนาฯ ลงพื้นที่สำรวจพร้อมมอบส้วม พระราชทาน บรรเทาทุกข์ชาวบ้านแล้ว
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งขณะนี้น้ำได้ท่วมขังอยู่เต็มพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ แต่จุดที่เป็นจุดวิกฤตที่สุด ซึ่ง นายนิมิต จันทร์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ออกมายอมรับว่าวิกฤตคือ อ.บางเลน พุทธมณฑล และ อ.นครชัยศรี ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีน โดยสถานการณ์นั้นประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้าซึ่งต้องมีการระดมกำลังอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ในการอพยพผู้คนตามจุดที่ติดอยู่หลายแห่งด้วยความยากลำบาก
โดยที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล ซึ่งมีทั้งคลองทวีวัฒนา ที่เป็นจุดระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร และคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้ระดับน้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่สูงโดยที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล มีระดับน้ำสูงขึ้นถึงระดับหน้าอก การคมนาคมตัดขาดและการใช้ชีวิตยากลำบากมากขึ้น
โดยมีรายงานว่าเมื่อวานนี้พนังกั้นน้ำบริเวณมหาวิทยาลัยมกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นจุดพักพิงแห่งหนึ่งซึ่งได้รับผู้อพยพจากโรงเรียนกาญจนาภิเษกแล้วครั้งหนึ่ง และมีผู้อพยพอยู่ราว 800 คน ได้เกิดรอบรั่วและมีท่าทีว่าแตกลง จึงได้มีการประสานกำลังทหารนำรถ ยีเอ็มซี 4 คันขนย้ายผู้อพยพ ออกจากพื้นที่โดยด่วน ซึ่งเป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก เพื่อขนย้ายมาที่ มหาวิทยายาลัยราชภัฏนครปฐม แต่ด้วยความลึกของระดับน้ำทำให้สามารถย้ายผู้อพยพได้เพียง 200 คนเศษ ยังเหลือผู้ติดค้างกว่า 500 คน ซึ่งคาดว่าตลอดทั้งวันนี้จะมีการขนย้ายให้ได้มากที่สุด
ส่วนกลางดึกที่ผ่านมา รพ.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เพื่อขอเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนัก เนื่องจากน้ำในแม่น้ำท่าจีนนั้นเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างแต่เนื่อง ซึ่งได้ขนย้ายผู้ป่วยหนัก 14 รายที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไปส่งยัง รพ.ศูนย์นครปฐม แต่ได้รับแจ้งว่าโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมนั้นรับจำนวนคนไข้ในที่ต้องนอนรักษาตัว 500 เตียงเต็มครบแล้ว และยังมีเตียงเสริมที่อยู่ภายในอยู่เป็นจำนวนมาก จึงต้องส่งตัวคนไข้ 12 ราย ไปยัง รพ.กำแพงแสน และอีก 2 รายส่งต่อให้กับศูนย์พักพิงที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม ซึ่งมีผู้ที่อพยพอยู่แล้วกว่า 500 คน
ขณะที่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคาที่ผ่านมา นายกฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมด้วยนายนิรันดร เอื้องตระกูลสุข รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ และ นายสำเริง ครุฑดำ ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม ได้นำเจ้าหน้าปศุสัตว์อำเภอและอาสาสมัครนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล เข้าอพยพสุนัขกว่า 500 ตัว และแมวอีก 50 ตัวที่มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ที่ 10 ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งการเดินทางในการเข้าไปขนย้ายนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องนั่งเรือข้ามทุ่งน้ำลึกประมาณ 4 เมตร และต้องนำกรงใส่เรือแพล่องทุ่งน้ำเพื่อที่จะใส่สุนัขนำกลับออกมา
โดยจะนำไปกักเลี้ยงไว้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งคาดว่าจะขนย้ายสุนัขดังกล่าวให้เป็นไปได้ด้วยความยากลำบากและเสร็จสิ้นในตอนดึก ประกอบกับระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าทีเกรงว่าอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ทั้งทีมอาสาสมัครและสุนัข
สำหรับสภาพน้ำในวันนี้ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ช่วงตั้งแต่อำเภอบางเลน-อำเภอสามพราน นอกจากนี้ ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม ก็มีน้ำท่วมขังอยู่ สภาพน้ำท่วมข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 30 ตค.54 มีพื้นที่น้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 578,897 ไร่ สามารถแยกพื้นที่น้ำท่วมเป็นรายอำเภอได้ดังนี้ คือ อำเภอบางเลน จำนวน 323,255 ไร่, อำเภอกำแพงแสน จำนวน 67,366 ไร่, อำเภอนครชัยศรี จำนวน 71,708 ไร่, อำเภอดอนตูม จำนวน 64,975 ไร่, อำเภอพุทธมณฑล จำนวน 33,500 ไร่, อำเภอสามพราน จำนวน 11,243 ไร่ และอำเภอเมืองนครปฐม จำนวน 6,850 ไร่
ส่วนสถานการณ์น้ำ ในวันถัดไปคาดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 3.88 เมตร สูงกว่าระดับตลิ่ง 88 เซนติเมตร (ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 1 พ.ย.54 2 ซม.) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตรในเขต อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน
ปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบันลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันที่เสริมใหม่อยู่ 30 เซนติเมตร ระดับน้ำทรงตัว และได้มีการเปิดบานระบายที่ประตูระบายน้ำพระยาบันลือเพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีน และเปิดรับน้ำเข้าพื้นที่เกษตรฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน บริเวณตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน ซึ่งจะส่งผลถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑลที่ท่วมอย่างหนักอยู่แล้ว
ส่วนบรรยากาศในการทำงานของภาคเอกชนวันแรกของจังหวัดนครปฐม พบว่า สภาพการเดินทางในพื้นที่น้ำท่วมเป็นได้อย่างยากลำบาก ข้าราชการหลายคนเลือกจะอาศัยที่ทำงานส่วนราชการเป็นที่พัก เนื่องจากน้ำท่วมขังและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที
ส่วนบรรยายกาศของผู้ที่อยู่ในจังหวัดนครปฐม และต้องนั่งรถโดยสารไปงานที่กรุงเทพฯเหลือเพียงรถตู้โดยสารสายนครปฐม อนุสาวรีย์ฯเพียงสายเดียวที่จะวิ่งเข้าถนนเพชรเกษมออกถนนพระราม 2 และขึ้นทางด่วนไปลงที่ราชเทวี โดยต้องใช้เวลาเดินทางถึง 4 ชั่วโมง
สำหรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าในพื้นที่มากกว่าปริมาณน้ำที่ไหลออกจากพื้นที่จังหวัดนครปฐม จำนวน 51.15 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน พื้นที่น้ำท่วมเพิ่มขึ้น 43,935 ไร่ และวันนี้การระบายน้ำจะมีผลกระทบในช่วงน้ำทะเลหนุน ซึ่งเวลาน้ำทะเลหนุนสูง เวลา 12.00 น.น้ำขึ้นที่บริเวณอำเภอสามพราน และเวลา 04.00 น.ของวันที่ 2 พ.ย.54 น้ำขึ้นที่บริเวณอำเภอนครชัยศรี