xs
xsm
sm
md
lg

เมืองเจดีย์ใหญ่ป่วนทั้งจังหวัด วอน ปชช.อพยพหนีน้ำไปอยู่จุดที่กำหนด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครปฐม - มวลน้ำยังเดินหน้าเข้าสู่เมืองเจดีย์ใหญ่ไม่หยุด อำเภอบางเลน นครชัยศรี พุทธมณฑล จมบาดาล ขณะทหารเร่งกู้สถานการณ์คันกั้นน้ำหมอฉ่ำแตกได้สำเร็จเพื่อรอรับมวลน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในพื้นที่ หลายฝ่ายมองควรอพยพประชาชนไปอยู่ยังศูนย์พักพิง

วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งงว่า จากเหตุที่คันกั้นน้ำหมอฉ่ำ ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกของวัดบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ได้พังทลายลงตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมากได้ทะลักเข้าท่วมบ้านพักอาศัยและโดยรอบบริเวณพื้นที่ของวัดบางเลน ซึ่งพระครูเกษมถาวรคุณ เจ้าอาวาสวัดบางเลน ได้ประสานขอกำลังทหารจากกองพลทหารราบที่ 3 ร.19 พัน 3 ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี นำกำลังพลทหารกว่า 10 นายเร่งช่วยกันทำแนวป้องกั้นน้ำรอบวัด พร้อมทั้งใช้รถแบ็กโฮขุดดินทำกันกั้นและก่ออิฐบล็อกรอบกุฏิเจ้าอาวาสสูง 1 เมตร เพื่อป้องกันน้ำที่จะเอ่อท่วมได้ ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะแก้สถานการณ์ได้ก่อนที่มวลน้ำก้อนใหญ่จะเข้ามาถึงตัวอำเภอบางเลน ในอีกไม่นานนี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว

ขณะที่หลวงปูพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน ได้นำสิ่งของพร้อมข้าวกล่องจำนวน 500 ชุด ส่งมอบให้กับเจ้าอาวาสวัดบางเลน เพื่อนำไปมอบให้กับชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยที่ตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน ซึ่งเป็นเขตชายแดนติดต่อกับจังหวัดนนทบุรี ที่ได้รับความเดือดน้ำท่วมสูงเช่นกัน จึงต้องใช้รถบรรทุกของทหารนำสิ่งของเข้าไปมอบให้กับชาวบ้านที่ต่างต้องอพยพสิ่งของขึ้นมาอาศัยอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านต่างดีใจที่เห็นรถทหารที่นำสิ่งของมาให้ โดยกล่าวว่า "ตั้งแต่น้ำท่วมต่างเดือดร้อนกันอย่างมาก และการช่วยเหลือจากราชการแทบจะยังไม่ถึงผู้ประสาบภัยเหมือนในตำบลอื่นๆ ในเขตอำเภอบางเลน"

ส่วนที่อำเภอพุทธมณฑล ภายในพุทธมณฑล เนื้อที่กว่า 2,500 ไร่มีน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร จากการสอบถามไปยังพระปลัดบุญร่วม ผู้อำนวยการสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลว่า ปริมาณน้ำที่เอ่อขึ้นได้ไหลทะลักเข้าทางด้านหลังของพุทธมณฑลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่อเต็มพื้นที่ โดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน โดยขณะนี้พระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำเครื่องใช้ไฟฟ้าออกนอกพื้นที่เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นด้วย

ขณะที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ถนนเพชรเกษม เชื่อมโยงไปยังถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตลอดสาย ไหลลงมาทางตลาดน้ำวัดดอนหวาย วัดท่าพูด และกำลังไหลไปทางวัดไร่ขิง ส่วนหนึ่งไหลมาทางถนนบรมราชชนนี ทะลักข้ามทุ่งมาสมทบกับถนนหน้าวัด ส่วนที่อำเภอนครชัยศรี ขณะนี้น้ำเอ่อตามท่อระบายน้ำ ขึ้นตามถนนทางเข้าอำเภอทั้ง 2 ด้าน และกำลังไหลทะลักขึ้นถนนเพชรเกษมอย่างต่อเนื่อง

นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอพุทธมณฑล ได้สั่งการและมอบหมายให้นายปริญญา สอนอิ่มศาสตร์ ปลัดป้องกันอำเภอพุทธมณฑล พร้อมด้วยคณะอาสาสมัคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลศาลายา ออกตรวจดูสภาพน้ำหมู่ 3 และ 4 ตำบลศาลายา ที่ยังมีผู้คนที่ไม่ยอมออกจากบ้าน และผู้ที่ต้องการออกมาพักพิงชั่วคราว ซึ่งในการออกตรวจดูสภาพน้ำในครั้งนี้ พบว่ายังมีผู้ที่ไม่ต้องการออกจากบ้านเหลือเพียงประมาณ 30% และระดับน้ำวันนี้ยังไม่เพิ่มแต่ทรงตัว

โดยตอนนี้ได้ขนย้ายประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่ มหาวิทยาลัยมกุฎราชวิทยาลัยกว่า 800 คนจนหมดและปิดศูนย์แล้ว แต่ยังไม่ประชาชนจำนวน 500 กว่าคน ที่ยังอาศัยในวิทยาลัยนาฎศิลป์ ที่ยังคงไม่ยอมออกจากพื้นที่ซึ่งทางอำเภอพุทธมณฑล หวังจะให้อพยพมาอยู่รวมกันที่มหาวิทยาลัยาชภัฎนคปฐม มหาวิทยาลัยศิลปากร โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม เนื่องจากจะปลอดภัยกว่า นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่ขออาศัยในวัดหทัยเนศวร ด้านหลังมหาวิทยาลัยมหามิดล วิทยาเขตศาลายาอีก 50 คน

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องการคือส้วมเคลื่อนที่และเรือทั้งประเภทท้องแบนและติดเครื่องยนต์ เนื่องจากการสัญจรทำได้เพียงทางเรือ เท่านั้น รวมถึงยังติดขัดในการรับอาหารหรือของบริจาคเป็นถุงยังชีพที่การเดินทางเข้าออกเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือประชาชน โดยที่หมู่บ้าน สหพร นั้นตัดขาดจากทางถนนต้องนำข้าวปลาอาการส่งทางเรือเท่านั้น โดยหมายถึงพุทธมณฑลมีสภาพน้ำท่วมเต็มพื้นที่และมีระดับน้ำเฉลี่ย 1.50 - 1.80 เมตร การประสานงานข้อมูลเรื่องระดับน้ำและจุดอพยพยังเป็นอุปสรรคที่ต้องมีการประสานงานในการให้ความช่วยเหลือโดยด่วน ซึ่งถนนทั้งหมดตัดขาดหมดแล้ว ผู้ที่จะเข้ามาต้องใช้รถบรรทุกหรือเรือเท่านั้น

ที่อำเภอนครชัยศรี ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวัดจากระดับน้ำจากแม่น้ำท่าจีนที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เอ่อล้นเข้าท่วมถนนหลายสายที่มุ่งเข้าสู่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยที่ถนนเส้นหลักจากถนนเพชรเกษมถึงตลาดท่านาระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร มีน้ำท่วมทั้งเส้นทาง จนรถที่วิ่งผ่านได้เฉพาะรถยกสูงและรถหกล้อขึ้นไป และเส้นทางคือถนนเทศบาล1 (ถนนบางกระเบา) ก็ยังคงมีน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น ทำให้รถที่จะวิ่งเข้าอำเภอนครชัยศรี และอำเภอดอนตูม เหลือแค่เส้นทางถนนพุทธมณฑลสาย 8 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบแม่น้ำทางเดียว และในขณะนี้เหลืออีกไม่ถึง 20 เซนติเมตร น้ำก็จะท่วมสาย 8 เนื่องจากคันดินกันน้ำคลองบางแก้วได้แตกไปเมื่อช่วงดึก(วันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา) ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม ตำบลนครชัยศรีและท่าตำหนัก ซึ่งถนนเลียบแม่น้ำก็มีน้ำท่วมเป็นช่วงๆตั้งแต่แยกเข้า อำเภอนครชัยศรี จนถึงพุทธมณฑลสาย 8 น้ำท่วมสูงประมาณ20เซนติเมตร

ส่วนที่หน้าสถานีตำรวจภูธารนครชัยศรี มีระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ที่วัดกลางบางแก้ว ตำบลนครชัยศรี ที่มีพระเกจิชื่อดังหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่เจือ น้ำได้ทะลักเข้าท่วมวัดและชุมชนข้างวัดริมคลองบางแก้ว บางจุดสูงถึง 1.30 เมตร ซึ่งเป็นตลาดสดนัดยามเช้า ที่เก่าแก่อายุนับร้อยปีและเป็นแหล่งซื้อขายอาหาร กับข้าว ผักผลไม้ของชาบ้านต้องหยุดขายทำให้ชาวบ้านในอำเภอนครชัยศรีต้องเดินทางไปซื้ออาหารกับข้าว ผักผลไม้ ที่ตัวเมืองนครปฐมและจังหวัดราชบุรี มาเก็บไว้เพราะไม่รู้น้ำจะลดเมื่อไรและที่วัดตุ๊กตา และชุมชนบางกระเบา โรงเรียนวัดกลางบางแก้ว โรงเรียนวัดตุ๊กตา ตำบลบางกระเบา น้ำได้ท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ซึ่งพระสงฆ์ต้องหาเรือพายออกมาบิณฑบาต และช่วงกลางดึกน้ำแม่น้ำท่าจีน ได้ล้นถนนบรมราชชนนี ช่วงถนนพุทธมณฑลสาย 7 ตำบลหอมเกร็ด อำเภอสามพราน เขตติดต่อ ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี และที่ประตูน้ำคลองไฟไหม้ (โค้งหลอย)ถนนสายนครชัยศรี-พุทธมณฑลสาย 7 ซึ่งเป็นคลองที่เข้าสู่ตำบลขุนแก้ว ไปถึงถนนบรมราชชนนี แหล่งชุมชนและโรงงานผลิตธนบัตรแห่งชาติ (แบงค์ชาติ) ได้มีน้ำรั่วซึมไต้ประตูน้ำและล้นคันกระสอบทรายทะลักเข้าคลอง ทางองค์การบริหารส่วนตำบลขุนแก้วและชาวบ้านได้ช่วยกันเสริมกระสอบทรายและนำรถแบ็คโคมาตักแนวคันดินขุดรอยรั่วโดยใช้เวลาเกือบทั้งคืนและยังต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนในเขตเทศบาลนครนครปฐม มีการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และเฝ้าระวังน้ำที่ จะไหลเข้ามายังในพื้นที่ โดยมีนายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม เป็นประธานในการประชุมในการเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน พร้อมทั้งแนวทางการป้องกันน้ำที่จะไหลเข้ามา ยังในพื้นที่ หากมีน้ำที่เอ่อล้นจากอำเภอนครชัยศรี หรืออำเภอดอนตูม ซึ่งขณะนี้ยังประเมินสถานการณ์ไม่ได้ต้องรอตรวจสอบวันต่อวัน

ทั้งนี้ หลายงฝ่ายมองตรงกันว่า หากมีมวลน้ำที่กำลังจะมาถึงจังหวัดนครปฐม เป็นจำนวนมากจึงวอนอยากให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์และเตรียมอพยพหากภาครัฐขอร้องให้ย้ายถิ่น เนื่องจากระดับน้ำจะมีความสูงเพิ่มากขึ้นจนไม่สามารถประมาณการได้ชัดเจนและเกรงจะให้การช่วยเหลือไม่ทั่วถึงและทันเวลาซึ่งขณะนี้ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม ได้เตรียมเพิ่มศูนย์อพยพในการรองรับประชาชนที่คาดว่าแน่นอนแล้วที่จะต้องอพยพออกจากพื้นที่เป็นจำนวนมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น